เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2558 กระทรวงเกษตรไต้หวันได้รายงานการระบาดของไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ H5N2 และ H5N8 ในสัตว์ปีก ซึ่งทางการได้ทำลายห่านและเป็ดที่ติดเชื้อไปแล้ว 100,000 ตัว และไก่ 120,000 ตัว พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจสอบเชื้อไวรัสสาเหตุอีกกว่า 240,000 ตัว โดยคาดว่าจะต้องทำลายสัตว์ปีกกลุ่มเสี่ยงอีกไม่น้อยกว่า 170,000 ตัว หากผลตรวจสอบยืนยันว่าติดเชื้อสายพันธุ์ข้างต้น
เชื้อไวรัสไข้หวัดนก H5N2 และ H5N8 พบการระบาดในเกาหลีใต้ซึ่งมีพรมแดนติดกับจีนเมื่อปี 2557 และมีความเป็นไปได้ว่าจะกลายพันธุ์เป็นเชื้อสายพันธุ์รุนแรงกว่าที่มีพันธุกรรมแตกต่างกับไวรัส H5N2 ที่เคยพบการระบาดในเป็ดและห่านก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ หน่วยงานปศุสัตว์ของไต้หวันระบุว่า แม้ในช่วงตรุษจีนประชาชนมีแนวโน้มที่จะบริโภคสัตว์ปีกมากกว่าปกติ โดยเฉพาะปริมาณการบริโภคห่านที่เพิ่มขึ้นถึง 3-4 เท่า แต่ปัญหาการระบาดของไข้หวัดนกในครั้งนี้จะไม่กระทบต่อกำลังการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดมากนัก เนื่องจากไต้หวันสามารถผลิตไก่ ห่าน และเป็ด ได้ในปริมาณถึง 300 ล้านตัว 5.5 ล้านตัวและ 30 ล้านตัว ตามลำดับในปี 2557
เชื้อไวรัสไข้หวัดนก H5N2 และ H5N8 พบการระบาดในเกาหลีใต้ซึ่งมีพรมแดนติดกับจีนเมื่อปี 2557 และมีความเป็นไปได้ว่าจะกลายพันธุ์เป็นเชื้อสายพันธุ์รุนแรงกว่าที่มีพันธุกรรมแตกต่างกับไวรัส H5N2 ที่เคยพบการระบาดในเป็ดและห่านก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ หน่วยงานปศุสัตว์ของไต้หวันระบุว่า แม้ในช่วงตรุษจีนประชาชนมีแนวโน้มที่จะบริโภคสัตว์ปีกมากกว่าปกติ โดยเฉพาะปริมาณการบริโภคห่านที่เพิ่มขึ้นถึง 3-4 เท่า แต่ปัญหาการระบาดของไข้หวัดนกในครั้งนี้จะไม่กระทบต่อกำลังการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดมากนัก เนื่องจากไต้หวันสามารถผลิตไก่ ห่าน และเป็ด ได้ในปริมาณถึง 300 ล้านตัว 5.5 ล้านตัวและ 30 ล้านตัว ตามลำดับในปี 2557