3 replies to this topic

[chutter1026 @chonburi city]

ชื่อกระทู้อาจจะน่ากลัวหน่อยนะครับ ต้องขอโทษด้วย
เรื่องคืออย่างนี้ครับ ถ้าหากเพื่อนๆ ได้ดู รายการ จับเข่าคุย ล่าสุดที่ผ่านมา แขกรับเชิญคือนักธุรกิจที่พูดไปทุกคนคงเคยได้ยิน
คุณ วิกรม ประธานมูลนิธิอมตะ ถ้าท่านใดได้อ่านหนังสือ ของคุณ วิกรม บ้างแล้ว คงจะพอจะทราบกันดีอยู่ว่าในเรื่องของมุมมอง
เศรษฐกิจ การตัดสินใจการลงทุน หรือการพัฒนา คงไม่เป็นสองรองใคร เข้าเรื่องเลยนะครับ คุณวิกรม บอกว่า (มุมมองของคุณ วิกรม) เศรษฐกิจไทยในตอนนี้ที่เราว่าแย่ๆ กัน มันเป็นเพียง ระยะแรกเท่านั้น (นี่ขนาดระยะแรกนะ) ในไตรมาศสุดท้ายนั้นแหละของ
จริง (ถ้าหากมันเกิดขึ้นจริง ผมนึกภาพไม่ออกเลยว่าจะเลวร้ายขนาดไหน) ไม่อยากจะละเอียดมากเพระว่าเกี่ยวพันกับการเมื่อง เดียวพี่เวปมาสเตอร์จะดุเอา แต่ที่มาตั้งเป็นประเด็นในกระทู้นี้คือ ประเทศเพื่อนบ้านเรา เวียดนาม ขยายอัตราการลงทุนของต่างประเทศ
ได้มาก และที่น่าเป็นห่วงสำหรับรุ่นน้องรุ่นลูก เรานี่แหละครับ คงเป็นเกษตรกร 100 เปอร์เซ้นต์ และที่ยังไม่เข้าใจอีกอย่างคือ
คำว่ามาตรฐาน (มันแสดงว่าเราไม่ได้ไปไกลกับเวียดนามเลย) แต่จะยังไงก็เป็นแค่มุมมองนะครับ คือไม่อยากให้ทุกคนเข้าใจว่า
ต้องเป็นเรื่องจริง 100 เปอร์เซ็นต์ แต่อยากให้เข้าใจว่าในตอนนี้เราต้องทำใจส่วนนึงแล้ว เพราะว่าล่าสุด ผมก็โดนเด้งจาก ศก.
(ยังไม่ถึง 3 เดือนเลยด้วยซ้ำ) แต่จะยังไงคนไทยก็ยังสู้ เป็นกำลังใจให้ครับ

[catdyeye_1234]

ถูกต้องที่สุดเลย คุณวิกรมเน้นให้ประหยัดมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
แล้วก็แปลงสินทรัพย์ที่ไม่เคลื่อนไหวให้เป็นทุนซ๊ะ ผู้ประกอบการก็ไม่ลงทุนเพิ่ม
คนตกงานก็จะมากขึ้น จึงควรสำรองเงินสดไว้เผื่อเวลาฉุกเฉิน ปลาย ๆ ปีน่าจะแย่
กันมากกว่านี้ แต่คนไทยส่วนใหญ่ก็ยังสู้ หลายส่วนก็ให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
นับเป็นเรื่องที่ดีที่สุดเลย น่าปลื้มใจ

เมื่อไหร่หนอ เขาจะเลิกแบ่งสีเสื้อ แล้วหันมาช่วยชาติกันจริง ๆ สักที
ประชาชนตาดำ ๆ คนใช้แรงงานจะแย่กันอยู่แล้ว

เป็นกำลังใจให้คนไทยทุกคนค่ะ

[iso_man]

ผลพวงครั้งนี้เกิดกับธุรกิจภาคอุตสาหกรรมรถยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งถือว่าเป็นเส้น
เลือดรองจากภาคอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง มันจึงผลกระทบกว้าง กับอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เป็นกำลังใจให้ทุกคนฝ่าฟันไปได้

[natts]

เห็นด้วยกับคุณวิกรม ค่ะ
..........................หลังจากคืนนั้นที่natts ได้ดูรายการแล้วรู้สีกว่า เด็กรุ่นนี้จนถึงรุ่นหลัง คงทำได้แค่ ทำใจ
เพราะทำอะไรไม่ได้แล้ว มีแต่เจ็งค์ กับ เจ็งค์ เช่นที่คุณวิกรม ยกตัวอย่างเรื่องร้านก๊วยเตี๋ยว ถ้าใครได้ดูก็จะเข้าใจ

natts เคยถามพี่ๆ ที่มีธุรกิจเป็นของตัวเองนะคะ จาก 5 ราย ให้คำตอบมาว่า เขาไปลงทุนทำธุรกิจที่เวียดนามกันแล้ว 2 ราย
เห็นหรือยังคะ แม้แต่คนในประเทศเองยังลงทุนที่ต่างประเทศ 555 อายจัง

สุดท้ายก็ขอฝากบอกทุกคนว่า
1. ประหยัด ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น
2. จะลงทุนทำอะไรให้คิดให้มากที่สุด
3. เงินที่จะช่วยจากรัฐนั้น มันคงไม่มีอีกแล้ว

B-----Y------E