เรื่องแรกการแก้ไขกับปัญหา
ท่านบอกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมากมายในการทำงานมันแบ่งแนวทางการดำเนินการเป็น 2 ประเภท คือ
1. ไม่แก้ไข
2. แก้ไข
คราวนี้การไม่แก้ไข อะไรละที่เป็นลางบอกเหตุว่าเกิดเหตุการณ์นัชี้แหระ ได้แก่ รับรู้แต่นิ่งเฉย, รู้แหระว่าเป็นปัญหาของตัวเองแต่ชอบหาแพะ, รู้จุดที่มีปัญหาแต่ไม่อยากบอกกลัวงานเข้าตัวเอง หรือ มองว่ามันเกิดขึ้นบ่อยๆๆไม่ได้เป็นปัญหา (ความเคยชิน) ซึ่งคนประเภทนี้ท่านเสนอแนะให้ไปทำการแก้ไขเรื่อง ทัศนคติใหม่ซะ โดยให้จัดบุคคลภายนอกว่าอบรม หรือ ส่งไปอบรมภายนอกเพื่อสลายพฤติกรรมดังกล่าวก่อน ถ้าทัศนคติดีแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง
มาถึงคนที่ชอบแก้ไขปัญหา สังเกตุง่ายเลยคนประเภทนี้จะไม่ค่อยปล่อยให้ปัญหาเกิดขึ้นซ้ำ จะเป็นคนย้ำคิดย้ำทำ มีการวางแผนการแก้ไขปัญหาเป็นรูปธรรม รู้จักการจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นโดยอาศัย Tool ต่างๆที่มี มีทัศนคติในเชิงบวก มองว่าปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้ แต่จะเร็วจะช้าขึ้นอยู่กับรากเหง้าของปัญหา คนพวกนี้เมื่อแก้ไขผ่านลุล่วงไปแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นตัวปัญหา ห จะหายไป ได้ ญ มาแทนนั่นคือปัญญา หรือความรู้ที่จะติดตัวผู้แก้ไขไป
เอามาฝากสำหรับทุกท่านที่กำลังพบปัญหาอย่าหนีมันครับ สู้กับมันแล้วเราจะพบปัญญาเกิดขึ้น ดังคำที่ว่า
ท้อได้แต่อย่าถอย ถอยได้แต่อย่าเลิก ล้มได้แต่อย่านิ่ง ลุกขึ้นมาแล้วปัญหาจะหมดไป
โชคดีทุกท่านในวันปีใหม่ที่จะมาถึง

