ตอนนี้ที่บริษัทตั้งplantใหม่น่ะค่ะ ทางหัวหน้าเลยอยากให้ set sampling plan ในส่วน incoming และกระบวนการผลิตขึ้นมาใหม่
(เนื่องจากที่อีกแผนกนึงเคยตั้งไว้บอกแค่ใช้ MIL-STD-105E ระดับ S-4 แต่ไม่มีการบอกถึงที่มาในการเลือกใช้แผนการตรวจสอบและระดับการตรวจสอบนี้น่ะค่ะ ทางหัวหน้าเลยอยากให้ set ใหม่และเขียนไว้เป็น WI)
เท่าที่หาข้อมูลและอ่านในหนังสือของสสท.ก็ยังสับสนน่ะค่ะ ไม่รู้จะใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการเลือก (ที่เคยเรียน เค้าก็บอกว่า ระดับ AQL จะมาจากทางผู้บริหาร แต่นี่หัวหน้ากลับให้เราเลือกเอง)
1. พอจะมีเกณฑ์อะไรที่ใช้ในการเลือกระดับ AQL คะ?
2. เท่าที่อ่านจากหนังสือของสสท. มี3วิธี
- ประเมินจากประวัติคุณภาพและความสามารถของกระบวนการ -> ส่วน incoming โดยส่วนใหญ่แล้วซื้อจาก supplier รายใหม่ค่ะ โดยทาง R&Dเป็นผู้เลือก ในส่วนกระบวนการผลิตก็ยังอยู่ในการเทสต์เครื่องจักรค่ะ เลยไม่มีข้อมูลในส่วนนี้
- วิธีการอนุรักษ์นิยม -> ถ้าเลือกวิธีนี้ก็ต้องใช้ตารางแสดงค่าเส้นโค้งโอซีสำหรับแผนการชักสิ่งตัวอย่างเชิงเ
ดี่ยว แล้วเราจะใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการเลือกค่า p คะ?
- วิธีการที่อาศัยค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบที่ต่ำที่สุด -> จะมีสูตรมาให้คำนวณ แต่ไม่มีข้อมูลเรื่องค่าใช้จ่าย
เท่าที่คิดไว้ ถ้า set ตรงนี้ได้ และนำไปใช้ประมาณ 3 เดือน ก็จะเอาข้อมูลมาดูเทรนด์ แล้วค่อยปรับปรุงอีกทีน่ะค่ะ
3. ในส่วนของระดับการตรวจสอบ ปกติแล้วถ้าเป็นการวัดdimensionที่ต้องมีการทำลายตัวอย่าง ใช้แบบ S-4 แต่ถ้าเป็นการตรวจสอบลักษณะทางกายภาพอื่นๆ ใช้แบบ G-II อันนี้เข้าใจถูกต้องหรือเปล่าคะ
ขอบคุณมากค่ะ
ท่านที่สมัครสมาชิกเข้ามาใหม่ กรุณารอให้ Admin ได้ทำการ Validate การเป็นสมาชิก ภายใน 24 ชม.ของวันทำการ ซึ่งระหว่างที่รอ Validation ท่านอาจจะยังไม่สามารถดาวน์โหลดข้อมูลต่างๆ ได้ หากไม่ได้รับความสะดวก กรุณาอีเมลแจ้ง isothainetwork@hotmail.com
สอบถามเรื่องการเลือก %AQL ค่ะ
Started by
tutotu
, Oct 31 2010 07:31 PM
3 replies to this topic
#1
Posted 31 October 2010 - 07:31 PM
#2
Posted 31 October 2010 - 08:05 PM
จากที่เคยอ่านและพยายามเข้าใจตามที่หนังสือ สสท. เขียนไว้ ตามความคิด จขกท. ก็ถูกครับ
สำหรับผมจะเริ่มจาก การใช้แผนการสุ่มแบบปกติ แล้วเลือกใช้ AQL=1 ก่อน แล้วค่อยใช้กฎการเปลี่ยนระดับความเข้มงวด
โดยดูจากประวัติของผลการตรวจ
สำหรับผมจะเริ่มจาก การใช้แผนการสุ่มแบบปกติ แล้วเลือกใช้ AQL=1 ก่อน แล้วค่อยใช้กฎการเปลี่ยนระดับความเข้มงวด
โดยดูจากประวัติของผลการตรวจ
#3
Posted 01 November 2010 - 10:34 AM
QUOTE(Food Safety @ Oct 31 2010, 08:05 PM) <{POST_SNAPBACK}>
จากที่เคยอ่านและพยายามเข้าใจตามที่หนังสือ สสท. เขียนไว้ ตามความคิด จขกท. ก็ถูกครับ
สำหรับผมจะเริ่มจาก การใช้แผนการสุ่มแบบปกติ แล้วเลือกใช้ AQL=1 ก่อน แล้วค่อยใช้กฎการเปลี่ยนระดับความเข้มงวด
โดยดูจากประวัติของผลการตรวจ
สำหรับผมจะเริ่มจาก การใช้แผนการสุ่มแบบปกติ แล้วเลือกใช้ AQL=1 ก่อน แล้วค่อยใช้กฎการเปลี่ยนระดับความเข้มงวด
โดยดูจากประวัติของผลการตรวจ
ที่องค์กรก็ใช้กฎการสับเปลี่ยนเหมือนกันค่ะ
#4
Posted 01 November 2010 - 03:56 PM
บริษัทเราผลิตอะไร
และ เราต้องตรวจรับอะไรบ้างครับ
บางครั้งเกณฑ์การสุ่ม อาจพิจารณาตามระดับความสำคัญหรือผลกระทบจาก part เหล่านั้นด้วยก็ได้
ประมาณว่า สำคัญมากสุ่มมาก สำคัญน้อยสุ่มน้อย
ถ้าจะให้ดี ถ้ามีข้อมูล process capability (Cpk, Ppk) ประกอบด้วยก็จะดีไม่น้อยครับ
และ เราต้องตรวจรับอะไรบ้างครับ
บางครั้งเกณฑ์การสุ่ม อาจพิจารณาตามระดับความสำคัญหรือผลกระทบจาก part เหล่านั้นด้วยก็ได้
ประมาณว่า สำคัญมากสุ่มมาก สำคัญน้อยสุ่มน้อย
ถ้าจะให้ดี ถ้ามีข้อมูล process capability (Cpk, Ppk) ประกอบด้วยก็จะดีไม่น้อยครับ
Nukool Thanuanram
Mobile Phone: 097.954.4939
Facebook: Nukool Thanuanram
Fanpage: อาจารย์นุกูล วิทยากรสอนคนโรงงาน
LINE ID: nukool2001
E-Mail: nukool2001@gmail.com
เสือพี่เพราะป่าปก ป่ารกเพราะเสือยัง ดินเย็นเพราะหญ้าบัง และหญ้ายังเพราะดินดี "สรรพสิ่งล้วนเกื้อกูลพึ่งพาอาศัย ซึ่งกันและกัน"
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users