4 replies to this topic

[katai34]

ปรึกษาอาจารย์แล้วกันนะคะ ขอคำตอบว่า บริษัทคู่สัญญานี้ ทำการเปิดเผยข้อมูลให้กับบุคคลที่สามที่สี่ที่ห้าได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากเราก่
อนได้จริงหรือไม่ ถ้าจริงก็แย่มากๆ แต่ถ้าไม่จริง อยากให้อาจารย์แนะนำว่าหจกต้องทำอย่างไรต่อไป ขอบพระคุณอาจารย์ และขอให้ให้อุทธาหรณ์กับเพื่อนร่วมเวปที่ทำ iso ทุกคน ขออย่าได้ถือวิสาสะอ้างความเป็น iso แล้วนำไปเปิดเผยข้อมูลของคู่สัญญากับบุคคลที่สามสี่ห้าเชียวคะ

เราเป็นหจกคะ บริการรับทำความสะอาด ส่งแม่บ้านไปทำความสะอาดในบริษัทที่อ้างว่ามี iso 27001 (ซึ่งจำได้ว่าที่เริ่มค้าขายคือ 7 มิย 53 เค้ายังไม่ได้และอยู่ในช่วงการขออยู่แต่ทำไมบริษัทหยิบมาอ้างได้ เมื่อเช็คไปทาง sgs aja bvqi ไม่พบว่ามีชื่อคะ แล้วหยิบมาอ้างได้ไง ผิดไหมแล้วเค้าจะได้ iso นั่นไหมเมื่อมีเรื่องมาเพราะ ยังไม่มีสิทธิอ้าง iso นี่นา)

ประเด็นคือ
ทั้งสองฝ่ายมีสัญญาว่าจ้างเป็นหนังสือไม่มีข้อกำหนดว่าบริษัทสามารถเปิดเผยข้อมูลที่
ทำสัญญากันได้โดยไม่ต้องขออนุญาต
เงื่อนไขสำคัญ 1. พนักงานที่หจกส่งไปเป็นแม่บ้าน ต้องรักษาความลับของบริษัทเค้าไม่เปิดเผยต่อผู้ใด
2. หจก จะต้องส่งผลการตรวจประวัติอาชญากรจากหน่วยงานกองประวัติอาชญากร (ในเอกสารราชการได้ระบุไว้แล้วว่า ห้ามนำไปเปิดเผยต่อบุคคลที่สามก่อนได้รับอนุญาตจากกอง)

ปรากฏว่า พบว่า พนักงานของบริษัทเองระดับหัวหน้าและผู้ช่วยแจ้งเราว่า ได้นำข้อมูลของเรา (ไม่ได้ระบุว่าบางส่วนหรือทั้งหมด)ให้ลูกค้าของตนดู (เป็นสถาบันกาเงินนอกระบบ) เนื่องจากเป็นลูกค้าเค้าแล้วเค้าจำเป็นต้องให้ดู ส่วนตัวเลยแจ้งกลับไปว่า "ใครอนุญาต ? หจก ไม่เคยอนุญาตด้วย เปิดเผยได้อย่างไร คุณให้หจกรักษาข้อมูลคุณ แล้วคุณหละ รักษาข้อมูลของเราหรือเปล่า"

หลังจากนั้นจึงสอบถามไปยังกรมทรัพย์สินทางปัญญาฝ่ายกฎหมายพรบความลับทางการค้า จึงได้ทำหนังสือไปยังลูกค้าให้ทราบข้อเท็จจริงและนำเรื่องไปแจ้งความต่อไว้ที่ สนทองหล่อ เพื่อเอาผิดต่อไป

ประเด็นคือ หลักฐานสำคัญ 1. สำเนาบัตรประชาชนของเราเองและทะเบียนบ้าน (ขีดคร่อมแล้ว) แต่ไม่ได้ฆ่าเลขบัตรนะคะ
2. เอกสารการผลการตรวจประวัติอาชญกรของแม่บ้าน
3. สัญญาว่าจ้างและขอบเขตการทำการ ระบุรายวัน รายเดือน

เมื่อวานมาบริษัทแจ้งเป็นหนังสือมา ไม่ได้ปฎิเสธว่าไม่ได้เปิดเผย แต่กลับบอกว่า การที่บริษัทกระทำการเปิดเผยแก่ลูกค้าตนถูกต้องดีแล้ว และเป็นมาตรฐานของ iso27001 ถ้าหจกเอาความผิดกับเค้า นัยว่าถ้าเค้าไม่ผิด เค้าจะเอาเรื่องฟ้องกลับนะ และบริษัทเห็นว่ายังไม่เข้าลักษณะพรบความลับทางการค้าอีกด้วย


เออ มีอย่างนี้ด้วย เอาข้อมูลเราไปเปิดเผยเืมื่อ เราบอกว่าไม่อนุญาต ยังจะมาบอกว่า ทำได้ อ้าง iso27001 ว่าเป็นบริษัทชั้นนำต้องทำอย่างนี้กัน ไม่มีขอโทษสักคำ งั้นไม่ถอนฟ้องที่โรงพักแล้วคะ ดีไหมคะจะได้รู้ว่ามันผิดแล้วอย่าได้นำเอกสารคู่สัญญาใดไปเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต
จากเจ้าตัวก่อน

ขอคำแนะนอาจารย์ด้วยว่า ถ้าหาก บริษัทเค้าถูก ทำไมจึงถูก iso27001 ให้การรับรองเปิดเผยกับใครก็ได้ งั้นเหรอคะ

[iso_man]

ผิดอย่างแรกเลยคือจรรยาบรรณคู่ค้า แต่เนื่องจากในสัญญาว่าจ้างไม่ได้ระบุในเรื่องของความลับที่ไม่ควรนำไปเปิดเผยของผู้
รับจ้าง ดังนั้น case นี้จึงค่อนข้างลำบากในการดำเนินการ พอดีไม่ได้เป็นทนายขนาดนั้นนะครับ แต่หากข้อมูลที่นำไปเปิดเผยนำความเสื่อมเสีย หรือ สูญเสียรายได้ของท่าน ท่านก็สามารถฟ้องร้องในคดีทางแพ่ง ผมจำไม่ได้แล้วมาตราไหน ลองปรึกษาทนายดูนะครับ แต่แนวๆๆว่าเสื่อมเสียชื่อเสียง อาจเข้าข่ายหมิ่นประมาทได้ แต่การจะอ้าง ISO27000 นี้คงไม่มีผลเท่าไร เอาตามกฎหมายได้น่าจะเห็นภาพมากกว่า รอท่านอื่นมาแชร์ต่อนะครับ พอรู้เรื่องบ้างเพราะใกล้ชิดทนายและขึ้นศาลบ่อยเหมือนกันอิอิ

[katai34]

ผิดอย่างแรกเลยคือจรรยาบรรณคู่ค้า แต่เนื่องจากในสัญญาว่าจ้างไม่ได้ระบุในเรื่องของความลับที่ไม่ควรนำไปเปิดเผยของผู้
รับจ้าง ดังนั้น case นี้จึงค่อนข้างลำบากในการดำเนินการ พอดีไม่ได้เป็นทนายขนาดนั้นนะครับ แต่หากข้อมูลที่นำไปเปิดเผยนำความเสื่อมเสีย หรือ สูญเสียรายได้ของท่าน ท่านก็สามารถฟ้องร้องในคดีทางแพ่ง ผมจำไม่ได้แล้วมาตราไหน ลองปรึกษาทนายดูนะครับ แต่แนวๆๆว่าเสื่อมเสียชื่อเสียง อาจเข้าข่ายหมิ่นประมาทได้ แต่การจะอ้าง ISO27000 นี้คงไม่มีผลเท่าไร เอาตามกฎหมายได้น่าจะเห็นภาพมากกว่า รอท่านอื่นมาแชร์ต่อนะครับ พอรู้เรื่องบ้างเพราะใกล้ชิดทนายและขึ้นศาลบ่อยเหมือนกันอิอิ

ขอบคุณมากนะคะที่ตอบให้ พอดีเรียนนิติศาสตร์รามอยู่ เลยค่อนข้างมั่นใจคะ แต่ไม่รู้เรื่อง iso เลยจริงๆ

เช็คมาแล้วคะ ว่าสัญญาว่าจ้างระหว่างนิิติบุคคลเป็นการทำนิติกรรมสัญญาระหว่างสองฝ่ายโดยสมัครใจโด
ยถูกต้องตามกฎหมาย และก่อให้เกิดซึ่งสิทธิ ซึ่งระบุมีแค่บุคคลสองฝ่ายเท่านั้น บุคคลที่สามถือเป็นบุคคลนอกคะ
เรื่องเสียหายไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหายนะคะ แต่อยากให้เพียงถูกลงโทษคดีอาญา เช่นบัตรประชาชน เป็นสิทธิส่วนบุคคลที่จะไม่บอกใครอยู่แล้ว โดยเฉพาะเลขบัตร

ทางแผนกกฎหมาย พรบ ความลับทางการค้าแจ้งว่า เข้าข่ายผิดดังนี้
มาตรา 35 ผู้ใดเปิดเผยข้อเท็จจริงใดเกี่ยวกับกิจการของผู้ควบคุมความลับทางการค้าอันเป็นข้อเท
็จจริงที่ตาม ปกติวิสัยจะพึงสงวนไว้ไม่เปิดเผย ซึ่งตนได้มาหรือล่วงรู้ เนื่องจากการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงเจ็ดปี หรือปรับ ตั้งแต่ห้าแสนบาท ถึงหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เว้นแต่เป็นการเปิดเผยในการปฏิบัติราชการ หรือเพื่อประโยชน์ในการสอบสวนหรือการพิจารณาคดี
ผู้ใดได้มาหรือล่วงรู้ข้อเท็จจริงใดจากบุคคลตามวรรคหนึ่งเนื่องในการปฏิบัติราชการหร
ือการสอบสวนหรือ การพิจารณาคดี แล้วเปิดเผยข้อเท็จจริงนั้น ต้องระวางโทษ เช่นเดียวกัน
มาตรา 36 ในกรณีที่ผู้กระทำความผิดเป็นนิติบุคคล ถ้าการกระทำความผิด ของนิติบุคคลนั้น เกิดจากการสั่งการ การกระทำ หรือไม่สั่งการ หรือไม่กระทำการอันเป็น หน้าที่ที่ต้องกระทำของกรรมการ ผู้จัดการหรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของ นิติบุคคลนั้น ผู้นั้นต้องรับโทษ ตามที่บัญญัติไว้สำหรับความผิด นั้น ๆ ด้วย
มาตรา 37 ความผิดตาม มาตรา 33 และ มาตรา 37 เป็นความผิดอันยอมความได้

ฉะนั้น มาตรา 35 36 กรณีนี้ ยอมความไม่ได้คะ

[iso_man]

อืมเล่นอาญาเลยเหรอครับ หนักเหมือนกันนะ ก็ลองดูครับถ้าเขาไม่ต่อสู้นะ แต่ผมว่าอย่าให้ถึงขั้นนั้นเลยคนไทยคุยกันได้นะครับอิอิ

[katai34]

อืมเล่นอาญาเลยเหรอครับ หนักเหมือนกันนะ ก็ลองดูครับถ้าเขาไม่ต่อสู้นะ แต่ผมว่าอย่าให้ถึงขั้นนั้นเลยคนไทยคุยกันได้นะครับอิอิ

ถ้าผิดจริง ก็สมควรแก่เหตุคะ ซึ่งในคดีอาญาถ้าใครเรียนมาจะทราบว่า การป้องกันตัวเองหรือรักษาสงวนซึ่งสิทธิของตนไว้ จะมีใครเอาความผิดกับผู้ป้องกันตัวเองไม่ได้คะ

แต่ถ้าเป็นคดีแพ่งละเมิดเรียกค่าเสียหาย หากบริษัทisoมีสิทธิจริง เราก็ฟ้องว่า ผิดมาตราใช้สิทธิเกินส่วนแม้จะมีสิทธิทำได้จริง หรือถ้ามีไม่มีสิทธิก็กลายเป็นผิดข้อหาละเมิด และคาดเดาได้ว่าจะได้รับความเสียหายอันอาจอนุมานได้ว่าจะเกิดควาเสียหายแก่ทรัพย์ถ้า
นำไปใช้ทำอะไรก็ตาม

แต่ว่าส่วนตัวไม่เอาแพ่งคะคะ ปล่อยให้อัยการดำเนินการแล้วไปแสดงตนเป็นพยานในชั้นศาลอาญาเท่านั้นคะ

เพราะดูแล้วบริษัทisoที่อ้างนั้น ไม่มีท่าทีอ่อนลงเลย กลับออกคำท้าด้วยซ้ำ