Jump to content


ท่านที่สมัครสมาชิกเข้ามาใหม่ กรุณารอให้ Admin ได้ทำการ Validate การเป็นสมาชิก ภายใน 24 ชม.ของวันทำการ ซึ่งระหว่างที่รอ Validation ท่านอาจจะยังไม่สามารถดาวน์โหลดข้อมูลต่างๆ ได้ หากไม่ได้รับความสะดวก กรุณาอีเมลแจ้ง isothainetwork@hotmail.com

Photo

อยากให้ช่วยเรื่องของ Process design input / output


  • This topic is locked This topic is locked
20 replies to this topic

#1 Reds

Reds

    New Member

  • Members
  • Pip
  • 7 posts

Posted 21 April 2009 - 02:25 PM

คือตอนนี้ค่อนข้างติดปัญหาเกี่ยวกับการจัดทำ APQP ซึ่งสับสนในเรื่องของ ..

ข้อกำหนดที่ 7.3.2.2 ( Process Design input ) ตรงเรื่องของ Target for productivity , process capability and process cost

ในส่วนของ Process cap นั้น เราต้องกำหนด ค่า Ppk ใช่หรือไม่ ซึ่งเป้าหมายในการทำ Ppk คงต้องอิงจาก Customer Req …

แต่ในส่วนของ Target Process Cost ยังคลำไม่ถูกเลย ไม่รู้จะเริ่มจากจุดไหน

และในส่วนของ Target for productivity ก็เช่นกันว่า ควรจะกำหนดอย่างไร ( ไม่รู้ว่า เกี่ยวกันในส่วนของการจัดทำ Worktime Study หรือป่าว คำนวณว่า ความสามารถผลิตจริงของเรามันสอดคล้องกับ ปริมาณการผลิตหรือไม่ )

และอีกปัญหาคือในส่วนของ 7.3.3.2 ( Process Design Output )ที่เกี่ยวข้องในเรื่องของ data for quality , reliability , maintainability and measurability

ซึ่งข้อสงสัยทั้งหมดนี้ผมมองไม่ออกว่ามันจะออกมาในรูปแบบหน้าตาเป็นแบบแบบไหน ข้อมูลที่โชว์หรือเอกสารที่ต้องโชว์จะออกมาเป็นอย่างไร

คือสมมุติว่า ถ้าผมพูดถึง Control Plan หรือ MSA , FMEA ผมก็ยังพอมองออกว่าจะต้องทำแบบไหน รูปแบบหน้าตาของเอกสารเป็นแบบไหน แต่ไอ้ข้อสงสัยข้างบนมองไม่ออกจริงๆครับ ..

ใครพอจะทราบ รบกวนช่วยคลายความสงสัยที่ ติด CAR ตรงจุดนี้แหละครับ ..... TT


#2 SL4

SL4

    Hornor Member

  • Super Power Members
  • PipPipPipPipPip
  • 663 posts
  • Gender:Male
  • Location:Hemaraj Eastern Seaboard. Rayong.

Posted 21 April 2009 - 05:01 PM

QUOTE(Reds @ Apr 21 2009, 02:25 PM) <{POST_SNAPBACK}>
คือตอนนี้ค่อนข้างติดปัญหาเกี่ยวกับการจัดทำ APQP ซึ่งสับสนในเรื่องของ ..

ข้อกำหนดที่ 7.3.2.2 ( Process Design input ) ตรงเรื่องของ Target for productivity , process capability and process cost

ในส่วนของ Process cap นั้น เราต้องกำหนด ค่า Ppk ใช่หรือไม่ ซึ่งเป้าหมายในการทำ Ppk คงต้องอิงจาก Customer Req …

แต่ในส่วนของ Target Process Cost ยังคลำไม่ถูกเลย ไม่รู้จะเริ่มจากจุดไหน

และในส่วนของ Target for productivity ก็เช่นกันว่า ควรจะกำหนดอย่างไร ( ไม่รู้ว่า เกี่ยวกันในส่วนของการจัดทำ Worktime Study หรือป่าว คำนวณว่า ความสามารถผลิตจริงของเรามันสอดคล้องกับ ปริมาณการผลิตหรือไม่ )

และอีกปัญหาคือในส่วนของ 7.3.3.2 ( Process Design Output )ที่เกี่ยวข้องในเรื่องของ data for quality , reliability , maintainability and measurability

ซึ่งข้อสงสัยทั้งหมดนี้ผมมองไม่ออกว่ามันจะออกมาในรูปแบบหน้าตาเป็นแบบแบบไหน ข้อมูลที่โชว์หรือเอกสารที่ต้องโชว์จะออกมาเป็นอย่างไร

คือสมมุติว่า ถ้าผมพูดถึง Control Plan หรือ MSA , FMEA ผมก็ยังพอมองออกว่าจะต้องทำแบบไหน รูปแบบหน้าตาของเอกสารเป็นแบบไหน แต่ไอ้ข้อสงสัยข้างบนมองไม่ออกจริงๆครับ ..

ใครพอจะทราบ รบกวนช่วยคลายความสงสัยที่ ติด CAR ตรงจุดนี้แหละครับ ..... TT


เอาตามความเข้าใจผมน้ะครับ ผมก็ทำ APQP อยู่ แต่ auditor ไม่เคยได้ถามละเอียด ขนาดนี้ เพราะ finalize แล้ว product ก็ถูกผลิตมาด้วย process ที่ input ไป ถ้าไม่มี complain จากลูกค้าเล้ว แล้ว ถ้าถูก audit อย่างมากก็เป็น แค่ OFI ครับ (ตามความคิดผมน้ะ)

ข้อกำหนดที่ 7.3.2.2 ( Process Design input ) ตรงเรื่องของ Target for productivity , process capability and process cost
Target for productivity = cycle time ที่เราควรจะผลิตได้ ของ product นั้นๆ
process capability = Cpk ลูกค้ากำหนดครับ
process cost = กรณีที่ qoute ให้กับลูกค้าต้องระบุการลงทุนด้วย เพราะการลงทุน เกี่ยวกับ process (ลงทุนมาก process อาจจะดี รวดเร็ว ลงทุนน้อย อาจจะผลิตได้ช้า)

7.3.3.2 ( Process Design Output )ที่เกี่ยวข้องในเรื่องของ data for quality , reliability , maintainability and measurability
data for quality = จะได้ defect rate จะได้ cycle time,
reliability = จะได้ ผลการ trial ตัวอย่างคือ target ของ product คือ 200 sec ทำได้ ถึงหรือเกิน 200 sec หรือไม่ ทำทุกช่วง ช่วงเริ่ม กลาง และ ปลาย process เท่ากันหรือไม่
maintainability = จะได้ การทำ pm ของเครื่องจักร ว่า ควรจะทำ pm ในช่วงไหน ใช้ไปแล้วกี่ชัวโมงจึงน่าจะทำ pm
measurability = จะได้ standard ในการวัด ว่าจะวัดอย่างไร

ทั้ง 2 ข้อ ไม่ได้ require เอกสาร ถ้ามีเอกสารจะตอบง่ายขึ้นครับ
ผมก็จะเป็นเอกสาร checklist ของ APQP ตัวอย่างตามเอกสารแนบครับ
ถ้าตอบผิดพลาดประการได ขออภัยด้วยน้ะครับ - รอบกวนท่านผู้รู้ช่วยตอบอีกทีครับ
rolleyes.gif

Attached Files


--Learning from mistaken--

#3 นุกูล

นุกูล

    Super Hornor Member

  • Super Power Members
  • PipPipPipPipPipPip
  • 4,797 posts
  • Gender:Male

Posted 21 April 2009 - 05:20 PM


ลองดูจากเอกสารที่แนบมา ประกอบด้วยก็ได้ครับ
เป็นเอกสารประกอบการสอน APQP & Control Plan แต่ตัดมาเฉพาะส่วนที่สงสัยน่ะครับ เอามาแค่ Phase เดียว
ถ้าอ่านข้อกำหนด TS16949 + APQP Reference Manual คู่กัน จะเสริมความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้นครับ
ในเอกสารที่แนบมา พอจะมี Guide หรือตัวอย่าง ของแต่ละคำถามอยู่บ้าง น่าจะช่วยได้บ้างน่ะครับ


Nukool Thanuanram
Mobile Phone: 097.954.4939

Facebook: Nukool Thanuanram

Fanpage: อาจารย์นุกูล วิทยากรสอนคนโรงงาน
LINE ID: nukool2001
E-Mail: nukool2001@gmail.com


เสือพี่เพราะป่าปก ป่ารกเพราะเสือยัง ดินเย็นเพราะหญ้าบัง และหญ้ายังเพราะดินดี "สรรพสิ่งล้วนเกื้อกูลพึ่งพาอาศัย ซึ่งกันและกัน"


#4 DooK

DooK

    Super Hornor Member

  • Super Power Members
  • PipPipPipPipPipPip
  • 1,511 posts
  • Gender:Male
  • Location:บางแสน

Posted 21 April 2009 - 08:47 PM

ผมยกตัวอย่างประสบการณ์ของผมก็แล้วกันนะครับ

Process Cost ก็จะได้จากการรวมเอาค่าใช้จ่ายทั้งหลาย ทั้ง fix และ variable ที่ได้จาก Process ต่างๆ ก่อนจะได้มาเป็นหนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล เอ๊ย ไม่ใช่ หนึ่งผลิตภัณฑ์เฉยๆ ครับ เช่น

ผมผลิตชิ้นงานเหล็กชิ้นหนึ่ง ต้องผ่าน Process การ Turning (Lathing) ก็อาจต้องคิดถึง

1. direct material cost --> แน่นอนว่าต้องใช้มีดกลึง ต้องมีการสึกหรอ ก็นับ tool life แล้วหารด้วยจำนวนตัวครับ เช่น มีดอันหนึ่งราคา 200 ผลิตได้ 200 ตัว ก็คิดเป็นค่า tooling 1 บาทต่อชิ้น

2. indirect material cost --> เช่น น้ำหล่อเย็น

3. direct labor cost --> -ก็ดูเอาครับว่า cycle time ในหนึ่งกระบวนการเป็นเท่าไหร่ เช่น 35 วินาที คนงานหนึ่งคนค่าแรง 200 ต่อวัน 25 บาทต่อชั่วโมง (8 ชั่วโมง) 25/60 บาทต่อนาที คิดเป็น 35/60 x 25/60 ก็ประมาณ 0.486 บาทต่อชิ้น

4. indirect labor cost --> ก็พวกเด็กยกแมท และ ฯลฯ (ขี้เกียจสาธยายครับ มันเยอะ แหะแหะ)

5. overhead cost --> อันนี้ถ้าไม่อยากเก็บข้อมูล ก็บวกเพิ่มไปเลยครับ ซัก 15-20% ของ cost รวมที่คิดออกมาได้

อันนี้เป็นแค่หนึ่งกระบวนการนะครับ มีอีกกี่กระบวนการก็ใช้วิธีการเดียวกันนี่แหละครับ จับเข้าไป จากนั้นก็เอา cost ทั้งหมดที่ได้มารวมกัน แล้วก็ดูว่าลูกค้าจะพอรับได้หรือไม่

เรื่องนี้จริงๆ แล้วไม่ต้องเก็บข้อมูลจริงก็ได้นะครับ สามารถนำมาจากข้อมูลเก่าๆ ที่เคยใช้กับผลิตภัณฑ์ก่อนหน้านี้ก็ได้ครับ อาจต้องอัพเดทบ้าง เช่น ค่า tool เป็นต้น ให้เหมาะสมกับความเป็นจริง จากนั้นก็จะบวกกำไรกี่เปอร์เซ็นต์ก็ว่ากันไปครับ อิอิ

ไม่แน่ใจว่าตรงกับคำถามของคุณ Reds หรือเปล่านะครับ

ลายเซ็น

#5 Chaney5200

Chaney5200

    Hornor Member

  • Super Power Members
  • PipPipPipPipPip
  • 574 posts
  • Gender:Female
  • Location:Prachinburi

Posted 22 April 2009 - 08:57 AM

ขอบคุณค่ะ สำหรับข้อมูลดีๆ
มีอีกเรื่องที่สงสัยค่ะ เนื่องจากลูกค้ามา Audit แล้ว Point
ไปในเรื่อง ของ Requirement customer ได้มีการสื่อสาร
ไปยัง Suppllier อย่างไรบ้างเพื่อให้การ audit Supplier
เป็นไปตามความต้องการลูกค้าอย่างถูกต้องตรงกัน เขาบอกว่า
ใน Checklist questionnal ที่ใช้ audit supplier ให้แสดง
ให้เห็นด้วยว่าตรงไหนที่เป็นข้อกำหนดของลูกค้า
พอจะมีแนวคิดหรือต้องดำเนินการอย่างไรเพื่อให้ชัดเจนในเรื่องนี้บ้างคะ

ขอคำชี้แนะด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ anigif9.gif
The gold of an argument should be progress, not victory.

#6 Reds

Reds

    New Member

  • Members
  • Pip
  • 7 posts

Posted 22 April 2009 - 09:34 AM

ขอบคุณครับ สำหรับทุกคำตอบ ช่วยได้พอสมควรเลยทีเดียวครับ ...

คือบริษัทผม เป็นการ Audit เพื่อขอการรับรองทำให้ผู้ตรวจประเมินคงจะต้องดูละเอียดเป็นพิเศษ ในส่วนของ APQP เขาคงดูว่าเรามีความเข้าใจมากน้อยแค่ไหนอะครับ .. เขาเลย Audit ในสิ่งที่ผมมีคำถาม ...

ปัญหามันยากตรงที่ ผมถามนี้ มันไม่ได้ร้องขอเรื่องของเอกสารนี้แหละครับ มันเลยงงนิดหน่อยอะครับ

ขอบคุณทุกคำตอบอีกครั้ง ....

ส่วนคำถามของคุณ chaney_Jamrus .... ถ้าเป็นผมผมก็คงเพิ่มในเรื่องของเป้าหมายของลูกถ้า เช่นเป้าหมาย Claim ของลูกค้าเท่าไหร่ แล้วเรารวมทั้ง Supplier จะต้องได้เท่าไหร่ หรือเรื่องของ Defect บางครั้งอาจจะพูดถึง จุด SC หรือจุด Safety ต่างๆ ซึ่งผมมองว่า สิ่งต่างๆเหล่านี้ Supplier จะต้องรับรู้นะครับ ผมมองไปถึงเรื่องคุณภาพเป็นหลัก ...

#7 SL4

SL4

    Hornor Member

  • Super Power Members
  • PipPipPipPipPip
  • 663 posts
  • Gender:Male
  • Location:Hemaraj Eastern Seaboard. Rayong.

Posted 22 April 2009 - 10:56 AM

QUOTE(chaney_Jamrus @ Apr 22 2009, 08:57 AM) <{POST_SNAPBACK}>
ขอบคุณค่ะ สำหรับข้อมูลดีๆ
มีอีกเรื่องที่สงสัยค่ะ เนื่องจากลูกค้ามา Audit แล้ว Point
ไปในเรื่อง ของ Requirement customer ได้มีการสื่อสาร
ไปยัง Suppllier อย่างไรบ้างเพื่อให้การ audit Supplier
เป็นไปตามความต้องการลูกค้าอย่างถูกต้องตรงกัน เขาบอกว่า
ใน Checklist questionnal ที่ใช้ audit supplier ให้แสดง
ให้เห็นด้วยว่าตรงไหนที่เป็นข้อกำหนดของลูกค้า
พอจะมีแนวคิดหรือต้องดำเนินการอย่างไรเพื่อให้ชัดเจนในเรื่องนี้บ้างคะ

ขอคำชี้แนะด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ anigif9.gif


ผมขอเสริมครับ เพราะว่าผมพึ่งโดน n/c สดๆร้อนๆ จาก CB audit ข้อนี้ เหมือนกัน เรื่อง customer requirements สัมพันธ์กับ internal audit
กรณีของ customer requirement (ผมเรียกสั้นๆ CSR น้ะครับ) ต้องมา review ก่อนที่จะนำเข้าระบบ อาจจะไม่รับ CSR ก็ได้
ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับ supplier ก็ต้องแปลง CSR จากลูกค้าเป็น CSR ของเราให้กับ supplier หรืออาจจะให้ CSR ของ ลูกค้ากับ supplier เลยก็ได้
ผมมี flow กับ matrix สำหรับ review CSR อาจจะแปลง format สำหรับใช้ในการ audit supplier ก็ได้
ถ้าตอบไม่ตรงใจ ขออภัยด้วยน้ะครับ
rolleyes.gif

Attached Files


--Learning from mistaken--

#8 อยากรู้(แต่ไม่อยากถาม)

อยากรู้(แต่ไม่อยากถาม)

    Hornor Member

  • Super Power Members
  • PipPipPipPipPip
  • 675 posts
  • Gender:Male

Posted 22 April 2009 - 11:11 AM

ขอเก็บไปศึกษาบ้างนะครับ
ขอบคุณ คุณSL4 และ อ.นุกูล นะครับ

Email: arnutprasitsuksun@yahoo.com

#9 Chaney5200

Chaney5200

    Hornor Member

  • Super Power Members
  • PipPipPipPipPip
  • 574 posts
  • Gender:Female
  • Location:Prachinburi

Posted 22 April 2009 - 11:33 AM

ขอบคุณค่ะคุณ SL4 ก็พอจะเข้าใจมากขึ้นเลยล่ะค่ะ
และขอบคุณสำหรับข้อมูลที่ให้มานะคะ
ก็คิดไว้ในแนวนี้เหมือนกันว่าหากเราหยิบ SC ของลูกค้า
มาสื่อสารให้กับ Supplier เราเลยน่าจะได้ไหม

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

Chaney

The gold of an argument should be progress, not victory.

#10 MRKAGA

MRKAGA

    Supreme Member

  • Power Members
  • PipPipPipPip
  • 347 posts

Posted 22 April 2009 - 02:51 PM

ขอบคุณทุกข้อมูลนะครับ
Think first print later...save paper save the world.

#11 lily

lily

    Super Member

  • Members
  • PipPip
  • 41 posts

Posted 06 July 2009 - 05:34 PM

QUOTE(MRKAGA @ Apr 22 2009, 02:51 PM) <{POST_SNAPBACK}>
ขอบคุณทุกข้อมูลนะครับ


thankyou.gif ขอบคุณค่ะ thankyou.gif

#12 stormriders

stormriders

    Hornor Member

  • Super Power Members
  • PipPipPipPipPip
  • 919 posts

Posted 25 August 2009 - 02:03 AM

thank you for all data na....

#13 @AI@

@AI@

    New Member

  • Members
  • Pip
  • 26 posts

Posted 10 September 2009 - 01:49 AM

ได้รับ CAR จาก CB ในเรื่องเดียวกับคุณ Reds เลย smiley-angry017.gif
ขอขอบคุณคำตอบจากคุณ SL4 มากๆ เลยค่ะ smiley-signs001.gif smiley-signs001.gif smiley-signs001.gif

#14 Mikijang

Mikijang

    Premium Member

  • Power Members
  • PipPipPip
  • 155 posts
  • Gender:Female
  • Location:เชียงใหม่, ลำพูน

Posted 16 February 2010 - 01:58 PM

QUOTE(SL4 @ Apr 21 2009, 05:01 PM) <{POST_SNAPBACK}>
เอาตามความเข้าใจผมน้ะครับ ผมก็ทำ APQP อยู่ แต่ auditor ไม่เคยได้ถามละเอียด ขนาดนี้ เพราะ finalize แล้ว product ก็ถูกผลิตมาด้วย process ที่ input ไป ถ้าไม่มี complain จากลูกค้าเล้ว แล้ว ถ้าถูก audit อย่างมากก็เป็น แค่ OFI ครับ (ตามความคิดผมน้ะ)

ข้อกำหนดที่ 7.3.2.2 ( Process Design input ) ตรงเรื่องของ Target for productivity , process capability and process cost
Target for productivity = cycle time ที่เราควรจะผลิตได้ ของ product นั้นๆ
process capability = Cpk ลูกค้ากำหนดครับ
process cost = กรณีที่ qoute ให้กับลูกค้าต้องระบุการลงทุนด้วย เพราะการลงทุน เกี่ยวกับ process (ลงทุนมาก process อาจจะดี รวดเร็ว ลงทุนน้อย อาจจะผลิตได้ช้า)

7.3.3.2 ( Process Design Output )ที่เกี่ยวข้องในเรื่องของ data for quality , reliability , maintainability and measurability
data for quality = จะได้ defect rate จะได้ cycle time,
reliability = จะได้ ผลการ trial ตัวอย่างคือ target ของ product คือ 200 sec ทำได้ ถึงหรือเกิน 200 sec หรือไม่ ทำทุกช่วง ช่วงเริ่ม กลาง และ ปลาย process เท่ากันหรือไม่
maintainability = จะได้ การทำ pm ของเครื่องจักร ว่า ควรจะทำ pm ในช่วงไหน ใช้ไปแล้วกี่ชัวโมงจึงน่าจะทำ pm
measurability = จะได้ standard ในการวัด ว่าจะวัดอย่างไร

ทั้ง 2 ข้อ ไม่ได้ require เอกสาร ถ้ามีเอกสารจะตอบง่ายขึ้นครับ
ผมก็จะเป็นเอกสาร checklist ของ APQP ตัวอย่างตามเอกสารแนบครับ
ถ้าตอบผิดพลาดประการได ขออภัยด้วยน้ะครับ - รอบกวนท่านผู้รู้ช่วยตอบอีกทีครับ
rolleyes.gif


สวัสดีค่ะ
พึ่งสมัครเป็นสมาชิกวันนี้ค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกข้อมูลนะคะ smiley-signs001.gif

#15 sathein

sathein

    New Member

  • Members
  • Pip
  • 23 posts

Posted 12 May 2010 - 07:16 PM

smiley-signs001.gif smiley-signs001.gif Thx. 4 all Information krab..

#16 no name

no name

    Premium Member

  • Power Members
  • PipPipPip
  • 63 posts

Posted 21 May 2010 - 08:10 PM

laugh.gif ขอบคุณนะครับ

#17 WUTTOSAN

WUTTOSAN

    Premium Member

  • Power Members
  • PipPipPip
  • 167 posts
  • Gender:Male

Posted 22 May 2010 - 12:11 AM

ขอบคุณข้อมูลสำหรับทุกๆท่าน มากครับ

#18 Mr.Ahero

Mr.Ahero

    Premium Member

  • Power Members
  • PipPipPip
  • 142 posts
  • Gender:Male

Posted 02 June 2010 - 03:53 PM

QUOTE(SL4 @ Apr 21 2009, 05:01 PM) <{POST_SNAPBACK}>
เอาตามความเข้าใจผมน้ะครับ ผมก็ทำ APQP อยู่ แต่ auditor ไม่เคยได้ถามละเอียด ขนาดนี้ เพราะ finalize แล้ว product ก็ถูกผลิตมาด้วย process ที่ input ไป ถ้าไม่มี complain จากลูกค้าเล้ว แล้ว ถ้าถูก audit อย่างมากก็เป็น แค่ OFI ครับ (ตามความคิดผมน้ะ)

ข้อกำหนดที่ 7.3.2.2 ( Process Design input ) ตรงเรื่องของ Target for productivity , process capability and process cost
Target for productivity = cycle time ที่เราควรจะผลิตได้ ของ product นั้นๆ
process capability = Cpk ลูกค้ากำหนดครับ
process cost = กรณีที่ qoute ให้กับลูกค้าต้องระบุการลงทุนด้วย เพราะการลงทุน เกี่ยวกับ process (ลงทุนมาก process อาจจะดี รวดเร็ว ลงทุนน้อย อาจจะผลิตได้ช้า)

7.3.3.2 ( Process Design Output )ที่เกี่ยวข้องในเรื่องของ data for quality , reliability , maintainability and measurability
data for quality = จะได้ defect rate จะได้ cycle time,
reliability = จะได้ ผลการ trial ตัวอย่างคือ target ของ product คือ 200 sec ทำได้ ถึงหรือเกิน 200 sec หรือไม่ ทำทุกช่วง ช่วงเริ่ม กลาง และ ปลาย process เท่ากันหรือไม่
maintainability = จะได้ การทำ pm ของเครื่องจักร ว่า ควรจะทำ pm ในช่วงไหน ใช้ไปแล้วกี่ชัวโมงจึงน่าจะทำ pm
measurability = จะได้ standard ในการวัด ว่าจะวัดอย่างไร

ทั้ง 2 ข้อ ไม่ได้ require เอกสาร ถ้ามีเอกสารจะตอบง่ายขึ้นครับ
ผมก็จะเป็นเอกสาร checklist ของ APQP ตัวอย่างตามเอกสารแนบครับ
ถ้าตอบผิดพลาดประการได ขออภัยด้วยน้ะครับ - รอบกวนท่านผู้รู้ช่วยตอบอีกทีครับ
rolleyes.gif


ขอเพิ่มเติม นะครับ ในส่วนของ reliability , maintainability ฝน Output จริงๆ แล้ว ข้อกำหนดต้องการทราบถึง
reliability ของ M/C ครับ นะครับ นั้นก็คือ ดัชนีของ MTBF (Mean time before failure)
maintainability ก็ของ line หรือ M/C อีก นั้นแหล่ะ คือ ดัชนี MTTR (Mean time to repair/restore
ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมดูนะครับ ถ้า อยากมองเห็นภาพรวมของ ข้อ 7.3 ทั้งหมด ทั้ง ISO9001 และ ISO/TS16949 ผมได้โพสไว้อย่างยาวเหยียว และ หลายฉบับ ร่ายกันยาวเลย ในห้องกระทู้ link http://www.isothai.c...?showtopic=2686 ซึ่งให้ดูเริ่มต้นตั้งแต่ 7.3.1 นะครับ จึงจะเกิดผล A_HERO
ถ้าติดปัญหาเกี่ยวกับข้อนี้ อีก ถามได้ที่ boonchanasak.k@trtc.co.th หรือ boonchanasak.inspire@gmail.com ครับ เพราะ APQP Manual จะไม่ครอบคลุมข้อกำหนดของ ISO/TS16949:2009 ต้องเพิ่มเติม หลายประเด็น พอสมควร ครับ พี่น้อง A_Hero


#19 Mr.Ahero

Mr.Ahero

    Premium Member

  • Power Members
  • PipPipPip
  • 142 posts
  • Gender:Male

Posted 02 June 2010 - 05:12 PM

QUOTE(chaney_Jamrus @ Apr 22 2009, 08:57 AM) <{POST_SNAPBACK}>
ขอบคุณค่ะ สำหรับข้อมูลดีๆ
มีอีกเรื่องที่สงสัยค่ะ เนื่องจากลูกค้ามา Audit แล้ว Point
ไปในเรื่อง ของ Requirement customer ได้มีการสื่อสาร
ไปยัง Suppllier อย่างไรบ้างเพื่อให้การ audit Supplier
เป็นไปตามความต้องการลูกค้าอย่างถูกต้องตรงกัน เขาบอกว่า
ใน Checklist questionnal ที่ใช้ audit supplier ให้แสดง
ให้เห็นด้วยว่าตรงไหนที่เป็นข้อกำหนดของลูกค้า
พอจะมีแนวคิดหรือต้องดำเนินการอย่างไรเพื่อให้ชัดเจนในเรื่องนี้บ้างคะ

ขอคำชี้แนะด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ anigif9.gif



ผมมีที่สรุป ได้ครบ ตามข้อกำหนด และสามารถใช้สื่อสารให้ทั้ง ภายในบริษัท และ supplier ได้เลย สนใจ ส่ง mail มา boonchanasak.inspire@gmail.com และ boonchanasak.k@trtc.co.th นะครับ เดี๋ยวจัดให้ครับผม

#20 Mr.Ahero

Mr.Ahero

    Premium Member

  • Power Members
  • PipPipPip
  • 142 posts
  • Gender:Male

Posted 02 June 2010 - 05:12 PM

QUOTE(chaney_Jamrus @ Apr 22 2009, 08:57 AM) <{POST_SNAPBACK}>
ขอบคุณค่ะ สำหรับข้อมูลดีๆ
มีอีกเรื่องที่สงสัยค่ะ เนื่องจากลูกค้ามา Audit แล้ว Point
ไปในเรื่อง ของ Requirement customer ได้มีการสื่อสาร
ไปยัง Suppllier อย่างไรบ้างเพื่อให้การ audit Supplier
เป็นไปตามความต้องการลูกค้าอย่างถูกต้องตรงกัน เขาบอกว่า
ใน Checklist questionnal ที่ใช้ audit supplier ให้แสดง
ให้เห็นด้วยว่าตรงไหนที่เป็นข้อกำหนดของลูกค้า
พอจะมีแนวคิดหรือต้องดำเนินการอย่างไรเพื่อให้ชัดเจนในเรื่องนี้บ้างคะ

ขอคำชี้แนะด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ anigif9.gif



ผมมีที่สรุป ได้ครบ ตามข้อกำหนด และสามารถใช้สื่อสารให้ทั้ง ภายในบริษัท และ supplier ได้เลย สนใจ ส่ง mail มา boonchanasak.inspire@gmail.com และ boonchanasak.k@trtc.co.th นะครับ เดี๋ยวจัดให้ครับผม




1 user(s) are reading this topic

0 members, 1 guests, 0 anonymous users