ท่านที่สมัครสมาชิกเข้ามาใหม่ กรุณารอให้ Admin ได้ทำการ Validate การเป็นสมาชิก ภายใน 24 ชม.ของวันทำการ ซึ่งระหว่างที่รอ Validation ท่านอาจจะยังไม่สามารถดาวน์โหลดข้อมูลต่างๆ ได้ หากไม่ได้รับความสะดวก กรุณาอีเมลแจ้ง isothainetwork@hotmail.com

Turtle Diagram
Started by
ข้าน้อย
, May 05 2010 08:09 AM
6 replies to this topic
#1
Posted 05 May 2010 - 08:09 AM
เกี่ยวกับการตั้งคำถามในแต่ละหัวข้อ
1. Key Performance Indicators(KPIs)
2. Outputs
3. Inputs
4. With,What(Material Equipment)
5. How (Procedures & Methods)
6. Support Process
7. With,Who (competence/Skill/Training)
แบบว่า QMR ให้ใช้ Diagram Turtle ในการ Audit ครับปกติเมื่อก่อนใช้ Checklist ครับ
แล้วอันไหนดีกว่า ครอบคลุมกว่า ช่วยแนะนำด้วยครับท่าน กรูรู Thank You
1. Key Performance Indicators(KPIs)
2. Outputs
3. Inputs
4. With,What(Material Equipment)
5. How (Procedures & Methods)
6. Support Process
7. With,Who (competence/Skill/Training)
แบบว่า QMR ให้ใช้ Diagram Turtle ในการ Audit ครับปกติเมื่อก่อนใช้ Checklist ครับ
แล้วอันไหนดีกว่า ครอบคลุมกว่า ช่วยแนะนำด้วยครับท่าน กรูรู Thank You
#2
Posted 05 May 2010 - 08:38 AM
QUOTE(ข้าน้อย @ May 5 2010, 08:09 AM) <{POST_SNAPBACK}>
เกี่ยวกับการตั้งคำถามในแต่ละหัวข้อ
1. Key Performance Indicators(KPIs)
2. Outputs
3. Inputs
4. With,What(Material Equipment)
5. How (Procedures & Methods)
6. Support Process
7. With,Who (competence/Skill/Training)
แบบว่า QMR ให้ใช้ Diagram Turtle ในการ Audit ครับปกติเมื่อก่อนใช้ Checklist ครับ
แล้วอันไหนดีกว่า ครอบคลุมกว่า ช่วยแนะนำด้วยครับท่าน กรูรู Thank You
1. Key Performance Indicators(KPIs)
2. Outputs
3. Inputs
4. With,What(Material Equipment)
5. How (Procedures & Methods)
6. Support Process
7. With,Who (competence/Skill/Training)
แบบว่า QMR ให้ใช้ Diagram Turtle ในการ Audit ครับปกติเมื่อก่อนใช้ Checklist ครับ
แล้วอันไหนดีกว่า ครอบคลุมกว่า ช่วยแนะนำด้วยครับท่าน กรูรู Thank You
ยาวเหมือนกันน่ะครับ
ขอตอบเรื่องข้อดีในการนำ Turtle Diagram ไปใช้งานก่อนแล้วกันครับ
Turtle Diagram มันเป็นเทคนิค เป็นตัวช่วยให้การเตรียมการตรวจของเรา มีมุมมองที่ครอบคลุมทุกๆปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการหรืองานนั้นๆ
ช่วยให้การตรวจไม่ตกหล่นประเด็นที่ควรตรวจด้วย ซึ่งประเด็นสำคัญดังกล่าว จริงๆแล้วมันก็คือปัจจัยพื้นฐาน 4M หรือ 5M ที่เราคุ้นหูบ่อยๆ นั่นก็คือ
Man
Machine
Method
Material
Measurement
ทีนี้แหละที่เราจะต้องมาดูว่า M แต่ละตัวเราจะต้องตรวจเรื่องอะไรบ้าง อันนี้อ้างอิงตาม Requirements หรือ Audit Criteria ครับ ของใครของมัน เช่น
Man ---------- 5.5.1, 6.2
Machine ------ 6.3
Method ------- 4.2.3, 4.2.4
Material ------- 7.4.3
Measurement -- 5.4.1, 5.4.2, 8.2.3, 8.5.1~3
Requirements -- แล้วแต่ว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อกำหนดใด
อันนี้เอาแบบคร่าวๆน่ะครับ
ดังนั้น ถ้าเราใช้ตัว Turtle Diagram มันจะครอบคลุมปัจจัยหลักๆครับ
แต่ ถ้าทำเป็น Audit Checklist แล้วตั้งรายการคำถามครอบคลุมตามนี้ มันก็ศักดิ์ศรีเท่ากันกับ Turtle เหมือนกันครับ
Nukool Thanuanram
Mobile Phone: 097.954.4939
Facebook: Nukool Thanuanram
Fanpage: อาจารย์นุกูล วิทยากรสอนคนโรงงาน
LINE ID: nukool2001
E-Mail: nukool2001@gmail.com
เสือพี่เพราะป่าปก ป่ารกเพราะเสือยัง ดินเย็นเพราะหญ้าบัง และหญ้ายังเพราะดินดี "สรรพสิ่งล้วนเกื้อกูลพึ่งพาอาศัย ซึ่งกันและกัน"
#3
Posted 05 May 2010 - 08:40 AM
Turtle เป็น แค่หลักการ
เพื่อให้การตรวจประเมินมองภาพรวมของกระบวนการ
เป็นการตรวจแบบ process audit
ไม่ใช่การเน้นการ conformed เอกสาร
แต่เป็นการเน้นการ ตรวจสอบสิ่งที่ทำ เทียบกับ output
บางที่เราเอาหน้าตา turtle มาเป็น checklist
ก็ไม่แปลก ก็ไม่ผิด
แต่จริงๆ กลับน่าจะเอา turtle มาเตรียมการตรวจ
output ของการจับ turtle อาจเป็น checklist ที่มีการระบุ check point
check point นั้นอาจมีการสรุปในรูปแบบ check list แบบเดิมๆ
เพื่อให้แน่ใจว่าเราได้มีการตรวจสอบ ยืนยัน ครบถ้วนทุกประเด็น
แต่จริงๆ กลับน่าจะเอา tutle มาเป็นรายงานการตรวจ
เพื่อกัน ผู้ตรวจลืม เวลาสรุปผลการสอดคล้อง ไม่สอดคล้อง อะไรดีไม่ดี
เขามองรอบด้านหรือไม่
แบบว่า QMR ให้ใช้ Diagram Turtle ในการ Audit ครับปกติเมื่อก่อนใช้ Checklist ครับ
ไม่ลองไม่รู้ ลองแล้วถึงจะรู้
บางที่ QMR อาจอยากโปรโมท ให้ผู้ตรวจภายใน
มองเป็นกระบวนการ
ผลหลังจากที่ได้ใช้ในการตรวจ
ปัญหา และ โอกาสที่ ผู้ตรวจติดตามระบุ จากการใช้รูปแบบใหม่ ที่แตกต่างจากเดิม
จะทำให้รู้ จริงๆแล้วใช้แบบไหนดี
แต่ละบริษัทต่างกัน
เพราะ ในแต่ละองค์กรมีภาวะ ความเสถียร ความเข้มงวด วินัย สิ่งที่ได้รับการปลูกฝังต่างกัน
แต่ละบริษัทต่างกัน เพราะทีมงานผู้ตรวจติดตามต่างกัน
แต่ละบริษัทต่างกัน เพราะความเข้มแข็งของระบบการตรวจติดตามต่างกัน
แต่ทุกบริษัทต้องเหมือนกัน คือต้องได้ประโยชน์จากการตรวจติดตาม เหมือนๆกัน
แล้วอันไหนครอบคลุมกว่า
ตอบยากเหมือนกัน
ไม่แน่ใจว่าหน้าตา ของ turtle checklist คุณเป็นแบบไหน
ไม่รู้ว่า cheklist แบบเดิมคุณเป็นอย่างไร
ไม่รู้ว่า ผู้ตรวจเซียนขนาดไหน มีpower แค่ไหน
แต่ละคนเป็นอย่างไร
รู้แต่ว่า หากไม่มี check point list เอาไว้
เพื่อกำกับ ว่าระหว่างการตรวจต้องหาหลักฐานอะไรบ้าง ต้องดูอะไรบ้าง
ผู้ตรวจภายในเป็นมือใหม่ ไม่เก๋าพอ
บริษัท มีการกำหนด output ของ process หยาบๆ
เตรียมสวด ชยันโตได้เลย
การใช้ turtle อยู่ที่หัว อยู่ในใจ
ของผู้ตรวจท่านนั้น ระหว่างการตรวจ ครับ
ไม่ใช่รูปแบบ checklist หรอก
เพลงกระบี่ อยู่ที่ใจครับ ไม่ใช่ท่าร่าง
ว้าว ! เขียนไปได้
เพื่อให้การตรวจประเมินมองภาพรวมของกระบวนการ
เป็นการตรวจแบบ process audit
ไม่ใช่การเน้นการ conformed เอกสาร
แต่เป็นการเน้นการ ตรวจสอบสิ่งที่ทำ เทียบกับ output
บางที่เราเอาหน้าตา turtle มาเป็น checklist
ก็ไม่แปลก ก็ไม่ผิด
แต่จริงๆ กลับน่าจะเอา turtle มาเตรียมการตรวจ
output ของการจับ turtle อาจเป็น checklist ที่มีการระบุ check point
check point นั้นอาจมีการสรุปในรูปแบบ check list แบบเดิมๆ
เพื่อให้แน่ใจว่าเราได้มีการตรวจสอบ ยืนยัน ครบถ้วนทุกประเด็น
แต่จริงๆ กลับน่าจะเอา tutle มาเป็นรายงานการตรวจ
เพื่อกัน ผู้ตรวจลืม เวลาสรุปผลการสอดคล้อง ไม่สอดคล้อง อะไรดีไม่ดี
เขามองรอบด้านหรือไม่
แบบว่า QMR ให้ใช้ Diagram Turtle ในการ Audit ครับปกติเมื่อก่อนใช้ Checklist ครับ
ไม่ลองไม่รู้ ลองแล้วถึงจะรู้
บางที่ QMR อาจอยากโปรโมท ให้ผู้ตรวจภายใน
มองเป็นกระบวนการ
ผลหลังจากที่ได้ใช้ในการตรวจ
ปัญหา และ โอกาสที่ ผู้ตรวจติดตามระบุ จากการใช้รูปแบบใหม่ ที่แตกต่างจากเดิม
จะทำให้รู้ จริงๆแล้วใช้แบบไหนดี
แต่ละบริษัทต่างกัน
เพราะ ในแต่ละองค์กรมีภาวะ ความเสถียร ความเข้มงวด วินัย สิ่งที่ได้รับการปลูกฝังต่างกัน
แต่ละบริษัทต่างกัน เพราะทีมงานผู้ตรวจติดตามต่างกัน
แต่ละบริษัทต่างกัน เพราะความเข้มแข็งของระบบการตรวจติดตามต่างกัน
แต่ทุกบริษัทต้องเหมือนกัน คือต้องได้ประโยชน์จากการตรวจติดตาม เหมือนๆกัน
แล้วอันไหนครอบคลุมกว่า
ตอบยากเหมือนกัน
ไม่แน่ใจว่าหน้าตา ของ turtle checklist คุณเป็นแบบไหน
ไม่รู้ว่า cheklist แบบเดิมคุณเป็นอย่างไร
ไม่รู้ว่า ผู้ตรวจเซียนขนาดไหน มีpower แค่ไหน
แต่ละคนเป็นอย่างไร
รู้แต่ว่า หากไม่มี check point list เอาไว้
เพื่อกำกับ ว่าระหว่างการตรวจต้องหาหลักฐานอะไรบ้าง ต้องดูอะไรบ้าง
ผู้ตรวจภายในเป็นมือใหม่ ไม่เก๋าพอ
บริษัท มีการกำหนด output ของ process หยาบๆ
เตรียมสวด ชยันโตได้เลย
การใช้ turtle อยู่ที่หัว อยู่ในใจ
ของผู้ตรวจท่านนั้น ระหว่างการตรวจ ครับ
ไม่ใช่รูปแบบ checklist หรอก
เพลงกระบี่ อยู่ที่ใจครับ ไม่ใช่ท่าร่าง
ว้าว ! เขียนไปได้

#4
Posted 05 May 2010 - 01:15 PM
QUOTE(นุกูล @ May 5 2010, 08:38 AM) <{POST_SNAPBACK}>
ยาวเหมือนกันน่ะครับ
ขอตอบเรื่องข้อดีในการนำ Turtle Diagram ไปใช้งานก่อนแล้วกันครับ
Turtle Diagram มันเป็นเทคนิค เป็นตัวช่วยให้การเตรียมการตรวจของเรา มีมุมมองที่ครอบคลุมทุกๆปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการหรืองานนั้นๆ
ช่วยให้การตรวจไม่ตกหล่นประเด็นที่ควรตรวจด้วย ซึ่งประเด็นสำคัญดังกล่าว จริงๆแล้วมันก็คือปัจจัยพื้นฐาน 4M หรือ 5M ที่เราคุ้นหูบ่อยๆ นั่นก็คือ
Man
Machine
Method
Material
Measurement
ทีนี้แหละที่เราจะต้องมาดูว่า M แต่ละตัวเราจะต้องตรวจเรื่องอะไรบ้าง อันนี้อ้างอิงตาม Requirements หรือ Audit Criteria ครับ ของใครของมัน เช่น
Man ---------- 5.5.1, 6.2
Machine ------ 6.3
Method ------- 4.2.3, 4.2.4
Material ------- 7.4.3
Measurement -- 5.4.1, 5.4.2, 8.2.3, 8.5.1~3
Requirements -- แล้วแต่ว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อกำหนด
อันนี้เอาแบบคร่าวๆน่ะครับ
ดังนั้น ถ้าเราใช้ตัว Turtle Diagram มันจะครอบคลุมปัจจัยหลักๆครับ
แต่ ถ้าทำเป็น Audit Checklist แล้วตั้งรายการคำถามครอบคลุมตามนี้ มันก็ศักดิ์ศรีเท่ากันกับ Turtle เหมือนกันครับ
ขอตอบเรื่องข้อดีในการนำ Turtle Diagram ไปใช้งานก่อนแล้วกันครับ
Turtle Diagram มันเป็นเทคนิค เป็นตัวช่วยให้การเตรียมการตรวจของเรา มีมุมมองที่ครอบคลุมทุกๆปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการหรืองานนั้นๆ
ช่วยให้การตรวจไม่ตกหล่นประเด็นที่ควรตรวจด้วย ซึ่งประเด็นสำคัญดังกล่าว จริงๆแล้วมันก็คือปัจจัยพื้นฐาน 4M หรือ 5M ที่เราคุ้นหูบ่อยๆ นั่นก็คือ
Man
Machine
Method
Material
Measurement
ทีนี้แหละที่เราจะต้องมาดูว่า M แต่ละตัวเราจะต้องตรวจเรื่องอะไรบ้าง อันนี้อ้างอิงตาม Requirements หรือ Audit Criteria ครับ ของใครของมัน เช่น
Man ---------- 5.5.1, 6.2
Machine ------ 6.3
Method ------- 4.2.3, 4.2.4
Material ------- 7.4.3
Measurement -- 5.4.1, 5.4.2, 8.2.3, 8.5.1~3
Requirements -- แล้วแต่ว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อกำหนด
อันนี้เอาแบบคร่าวๆน่ะครับ
ดังนั้น ถ้าเราใช้ตัว Turtle Diagram มันจะครอบคลุมปัจจัยหลักๆครับ
แต่ ถ้าทำเป็น Audit Checklist แล้วตั้งรายการคำถามครอบคลุมตามนี้ มันก็ศักดิ์ศรีเท่ากันกับ Turtle เหมือนกันครับ
ขอบคุณครับ อ.นุกูล ผมจะทำความเข้าใจและพยายามศึกษาครับ
#5
Posted 05 May 2010 - 01:20 PM
QUOTE(Old man @ May 5 2010, 08:40 AM) <{POST_SNAPBACK}>
Turtle เป็น แค่หลักการ
เพื่อให้การตรวจประเมินมองภาพรวมของกระบวนการ
เป็นการตรวจแบบ process audit
ไม่ใช่การเน้นการ conformed เอกสาร
แต่เป็นการเน้นการ ตรวจสอบสิ่งที่ทำ เทียบกับ output
บางที่เราเอาหน้าตา turtle มาเป็น checklist
ก็ไม่แปลก ก็ไม่ผิด
แต่จริงๆ กลับน่าจะเอา turtle มาเตรียมการตรวจ
output ของการจับ turtle อาจเป็น checklist ที่มีการระบุ check point
check point นั้นอาจมีการสรุปในรูปแบบ check list แบบเดิมๆ
เพื่อให้แน่ใจว่าเราได้มีการตรวจสอบ ยืนยัน ครบถ้วนทุกประเด็น
แต่จริงๆ กลับน่าจะเอา tutle มาเป็นรายงานการตรวจ
เพื่อกัน ผู้ตรวจลืม เวลาสรุปผลการสอดคล้อง ไม่สอดคล้อง อะไรดีไม่ดี
เขามองรอบด้านหรือไม่
แบบว่า QMR ให้ใช้ Diagram Turtle ในการ Audit ครับปกติเมื่อก่อนใช้ Checklist ครับ
ไม่ลองไม่รู้ ลองแล้วถึงจะรู้
บางที่ QMR อาจอยากโปรโมท ให้ผู้ตรวจภายใน
มองเป็นกระบวนการ
ผลหลังจากที่ได้ใช้ในการตรวจ
ปัญหา และ โอกาสที่ ผู้ตรวจติดตามระบุ จากการใช้รูปแบบใหม่ ที่แตกต่างจากเดิม
จะทำให้รู้ จริงๆแล้วใช้แบบไหนดี
แต่ละบริษัทต่างกัน
เพราะ ในแต่ละองค์กรมีภาวะ ความเสถียร ความเข้มงวด วินัย สิ่งที่ได้รับการปลูกฝังต่างกัน
แต่ละบริษัทต่างกัน เพราะทีมงานผู้ตรวจติดตามต่างกัน
แต่ละบริษัทต่างกัน เพราะความเข้มแข็งของระบบการตรวจติดตามต่างกัน
แต่ทุกบริษัทต้องเหมือนกัน คือต้องได้ประโยชน์จากการตรวจติดตาม เหมือนๆกัน
แล้วอันไหนครอบคลุมกว่า
ตอบยากเหมือนกัน
ไม่แน่ใจว่าหน้าตา ของ turtle checklist คุณเป็นแบบไหน
ไม่รู้ว่า cheklist แบบเดิมคุณเป็นอย่างไร
ไม่รู้ว่า ผู้ตรวจเซียนขนาดไหน มีpower แค่ไหน
แต่ละคนเป็นอย่างไร
รู้แต่ว่า หากไม่มี check point list เอาไว้
เพื่อกำกับ ว่าระหว่างการตรวจต้องหาหลักฐานอะไรบ้าง ต้องดูอะไรบ้าง
ผู้ตรวจภายในเป็นมือใหม่ ไม่เก๋าพอ
บริษัท มีการกำหนด output ของ process หยาบๆ
เตรียมสวด ชยันโตได้เลย
การใช้ turtle อยู่ที่หัว อยู่ในใจ
ของผู้ตรวจท่านนั้น ระหว่างการตรวจ ครับ
ไม่ใช่รูปแบบ checklist หรอก
เพลงกระบี่ อยู่ที่ใจครับ ไม่ใช่ท่าร่าง
ว้าว ! เขียนไปได้
เพื่อให้การตรวจประเมินมองภาพรวมของกระบวนการ
เป็นการตรวจแบบ process audit
ไม่ใช่การเน้นการ conformed เอกสาร
แต่เป็นการเน้นการ ตรวจสอบสิ่งที่ทำ เทียบกับ output
บางที่เราเอาหน้าตา turtle มาเป็น checklist
ก็ไม่แปลก ก็ไม่ผิด
แต่จริงๆ กลับน่าจะเอา turtle มาเตรียมการตรวจ
output ของการจับ turtle อาจเป็น checklist ที่มีการระบุ check point
check point นั้นอาจมีการสรุปในรูปแบบ check list แบบเดิมๆ
เพื่อให้แน่ใจว่าเราได้มีการตรวจสอบ ยืนยัน ครบถ้วนทุกประเด็น
แต่จริงๆ กลับน่าจะเอา tutle มาเป็นรายงานการตรวจ
เพื่อกัน ผู้ตรวจลืม เวลาสรุปผลการสอดคล้อง ไม่สอดคล้อง อะไรดีไม่ดี
เขามองรอบด้านหรือไม่
แบบว่า QMR ให้ใช้ Diagram Turtle ในการ Audit ครับปกติเมื่อก่อนใช้ Checklist ครับ
ไม่ลองไม่รู้ ลองแล้วถึงจะรู้
บางที่ QMR อาจอยากโปรโมท ให้ผู้ตรวจภายใน
มองเป็นกระบวนการ
ผลหลังจากที่ได้ใช้ในการตรวจ
ปัญหา และ โอกาสที่ ผู้ตรวจติดตามระบุ จากการใช้รูปแบบใหม่ ที่แตกต่างจากเดิม
จะทำให้รู้ จริงๆแล้วใช้แบบไหนดี
แต่ละบริษัทต่างกัน
เพราะ ในแต่ละองค์กรมีภาวะ ความเสถียร ความเข้มงวด วินัย สิ่งที่ได้รับการปลูกฝังต่างกัน
แต่ละบริษัทต่างกัน เพราะทีมงานผู้ตรวจติดตามต่างกัน
แต่ละบริษัทต่างกัน เพราะความเข้มแข็งของระบบการตรวจติดตามต่างกัน
แต่ทุกบริษัทต้องเหมือนกัน คือต้องได้ประโยชน์จากการตรวจติดตาม เหมือนๆกัน
แล้วอันไหนครอบคลุมกว่า
ตอบยากเหมือนกัน
ไม่แน่ใจว่าหน้าตา ของ turtle checklist คุณเป็นแบบไหน
ไม่รู้ว่า cheklist แบบเดิมคุณเป็นอย่างไร
ไม่รู้ว่า ผู้ตรวจเซียนขนาดไหน มีpower แค่ไหน
แต่ละคนเป็นอย่างไร
รู้แต่ว่า หากไม่มี check point list เอาไว้
เพื่อกำกับ ว่าระหว่างการตรวจต้องหาหลักฐานอะไรบ้าง ต้องดูอะไรบ้าง
ผู้ตรวจภายในเป็นมือใหม่ ไม่เก๋าพอ
บริษัท มีการกำหนด output ของ process หยาบๆ
เตรียมสวด ชยันโตได้เลย
การใช้ turtle อยู่ที่หัว อยู่ในใจ
ของผู้ตรวจท่านนั้น ระหว่างการตรวจ ครับ
ไม่ใช่รูปแบบ checklist หรอก
เพลงกระบี่ อยู่ที่ใจครับ ไม่ใช่ท่าร่าง
ว้าว ! เขียนไปได้

แบบพอร์มที่ใช้ก็อันแบบเดียวกันนี่แหละครับ
แล้วคำถามหลักๆที่เป็นมาตรฐานที่ทุกองกรณ์ต้องถูกถามทางAuditorจะอ้างอิงตามข้อกำหนด
ใช่ไหมครับไม่ได้ตั้งมาลอยๆ
แต่ยังไงก็ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆครับ
#6
Posted 05 May 2010 - 02:38 PM
แล้วคำถามหลักๆที่เป็นมาตรฐานที่ทุกองกรณ์ต้องถูกถามทางAuditorจะอ้างอิงตามข้อกำหนด ใช่ไหมครับไม่ได้ตั้งมาลอยๆ
การตรวจประเมิน ไม่ใช่การนั่งคุยกัน
การตั้งคำถาม แค่เป็นจุดเริ่มของประเด็น
คุณไม่รู้ หรอกว่าเขาจะถามอะไร
เพราะ ตัวเขาเองยังไม่รู้เลย
เวลาคุณหนีภรรยาเที่ยว
ภรรยาคุณ จะตรวจสอบ
สอบถาม ตามประเด็นที่สงสัย
ไม่มี รายการคำถามหรอก
สงสัย อะไรก็ถามเรื่องนั้น ซักไปเรื่อยๆ
ตอบผิด มีพิรุธ ลุกรี้ลุกรน เป็นโดน เจาะต่อ
หากยังไม่เข้าใจ เรื่องนี้
ต้องลงทุน หาภรรยา แล้วลองหนีเที่ยว
แล้วจะรู้
^____^
..................
รายการคำถาม กับ รายการ check point ไม่เหมือนกัน
สิ่งที่เราคุยกัน คือ Cheklist ไม่ใช้ Question List
สิ่งที่ต้องเตรียมคือ รายการของ Check Point
ส่วน คำถามเป็นเรื่องของการหาหลักฐาน
ซึ่งยังเป็น interview, view, review เหมือนเดิม
..................
หลักการ process audit คือ
เอา output ของกระบวนการเป็นตัวตั้ง
ตรวจสอบ ยืนยัน ถาม แล้วแต่ประเด็นที่เขาสนใจ
ลองซักพัก จะรู้
เพราะ tutle เหมาะกับระบบและคนที่นิ่งแล้วดีแล้ว
เพราะหากมีการตั้ง KPI ของกระบวนการกันแค่จิ๊บๆ
การตรวจเชิง process จ๋อยทันตา
เพราะเป้าหมายไม่ชัด เป้าหมายมีนิดหน่อย
ธงนำไม่มี ผู้ตรวจเหนื่อย
ผู้ตรวจภายนอกทำอย่างนี้ครับ
เอาเป้าหมายของ กระบวนการเป็นหลัก
ประเมินองค์ประกอบ ( ตามที่คุณ list มาข้างต้น What How Who .....)
เวลาเจอหลักฐานอะไรที่เป็นอุปสรรค ไม่ว่าในแง่การสอดคล้อง หรือ effective
ในการทำให้กระบวนการไม่บรรลุผล
ก็ออก CARs เรื่องนั้น
โดยอิงข้อกำหนด ที่เกี่ยวข้อง
.................
ไม่รู้ตอบคำถามหรือเปล่า
คนอื่น มาช่วยหน่อย
การตรวจประเมิน ไม่ใช่การนั่งคุยกัน
การตั้งคำถาม แค่เป็นจุดเริ่มของประเด็น
คุณไม่รู้ หรอกว่าเขาจะถามอะไร
เพราะ ตัวเขาเองยังไม่รู้เลย
เวลาคุณหนีภรรยาเที่ยว
ภรรยาคุณ จะตรวจสอบ
สอบถาม ตามประเด็นที่สงสัย
ไม่มี รายการคำถามหรอก
สงสัย อะไรก็ถามเรื่องนั้น ซักไปเรื่อยๆ
ตอบผิด มีพิรุธ ลุกรี้ลุกรน เป็นโดน เจาะต่อ
หากยังไม่เข้าใจ เรื่องนี้
ต้องลงทุน หาภรรยา แล้วลองหนีเที่ยว
แล้วจะรู้
^____^
..................
รายการคำถาม กับ รายการ check point ไม่เหมือนกัน
สิ่งที่เราคุยกัน คือ Cheklist ไม่ใช้ Question List
สิ่งที่ต้องเตรียมคือ รายการของ Check Point
ส่วน คำถามเป็นเรื่องของการหาหลักฐาน
ซึ่งยังเป็น interview, view, review เหมือนเดิม
..................
หลักการ process audit คือ
เอา output ของกระบวนการเป็นตัวตั้ง
ตรวจสอบ ยืนยัน ถาม แล้วแต่ประเด็นที่เขาสนใจ
ลองซักพัก จะรู้
เพราะ tutle เหมาะกับระบบและคนที่นิ่งแล้วดีแล้ว
เพราะหากมีการตั้ง KPI ของกระบวนการกันแค่จิ๊บๆ
การตรวจเชิง process จ๋อยทันตา
เพราะเป้าหมายไม่ชัด เป้าหมายมีนิดหน่อย
ธงนำไม่มี ผู้ตรวจเหนื่อย
ผู้ตรวจภายนอกทำอย่างนี้ครับ
เอาเป้าหมายของ กระบวนการเป็นหลัก
ประเมินองค์ประกอบ ( ตามที่คุณ list มาข้างต้น What How Who .....)
เวลาเจอหลักฐานอะไรที่เป็นอุปสรรค ไม่ว่าในแง่การสอดคล้อง หรือ effective
ในการทำให้กระบวนการไม่บรรลุผล
ก็ออก CARs เรื่องนั้น
โดยอิงข้อกำหนด ที่เกี่ยวข้อง
.................
ไม่รู้ตอบคำถามหรือเปล่า
คนอื่น มาช่วยหน่อย
#7
Posted 05 May 2010 - 03:50 PM
เวลาคุณหนีภรรยาเที่ยว
ภรรยาคุณ จะตรวจสอบ
สอบถาม ตามประเด็นที่สงสัย
ไม่มี รายการคำถามหรอก
สงสัย อะไรก็ถามเรื่องนั้น ซักไปเรื่อยๆ
หากยังไม่เข้าใจ เรื่องนี้
ต้องลงทุน หาภรรยา แล้วลองหนีเที่ยว
แล้วจะรู้
^____^
ขอบคุณครับ
แต่ข้อความด้านบนนี้สงกะสัยจะทำบ่อยใช่ไหมครับ อิอิอิ
ภรรยาคุณ จะตรวจสอบ
สอบถาม ตามประเด็นที่สงสัย
ไม่มี รายการคำถามหรอก
สงสัย อะไรก็ถามเรื่องนั้น ซักไปเรื่อยๆ
หากยังไม่เข้าใจ เรื่องนี้
ต้องลงทุน หาภรรยา แล้วลองหนีเที่ยว
แล้วจะรู้
^____^
ขอบคุณครับ
แต่ข้อความด้านบนนี้สงกะสัยจะทำบ่อยใช่ไหมครับ อิอิอิ
1 user(s) are reading this topic
0 members, 1 guests, 0 anonymous users