14 replies to this topic

[ติวเตอร์]

มีสูตรการคำนวณยังไงครับ จะเอาไปใช้ในฝ่ายผลิต

แล้วคอขวดคืออะไรครับ

ขอบคุณครับ

[wolfton]

การคิดหา%yield นั้นเท่าที่ผมเจอมาก็คิดไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไร

ถ้าแบบที่ผมคิดอยู่คือ (น้ำหนักวัตถุดิบก่อนผลิต - น้ำหนักวัตถุดิบที่ใช้ไปจริง) / น้ำหนักวัตถุดิบก่อนผลิต

เอาไปใช้หา yield ของทั้งกระบวนการผลิตก็ได้ หรือ หาyield แบบแยกกระบวนการทีละขั้นตอนก็ได้



ส่วนจุดคอขวดนั้น หมายถึง การไหลของกระบวนการผลิต ซึ่งจุดคอขวดนั้นเป็นจุดที่ทำให้กระบวนการผลิตช้าลง
ตัวอย่าง เช่น โรงงานเซรามิคแห่งหนึ่งผลิตแก้วน้ำส่งให้ลูกค้าประจำ แต่วันหนึ่งองค์กรเกิดปัญหางานเสร็จช้ากว่ากำหนด เมื่อตรวจสอบพบว่า จากแผนกตกแต่งชิ้นงาน ต้องรอการตรวจสอบจากแผนกตรวจสอบรอยแตกซึ่งมีพนักงานเพียงคนเดียว ทำให้งานเกิดความล้าช้า
จุดคอขวดขององค์กรนี้ คือ แผนกตรวจสอบรอยแตก การปรับปรุง คือ หาพนักงานเพิ่มหรือ หาวิถีที่ทำให้กระบวนการตรวจสอบเร็วขึ้น


ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับบบบบ

[iso_man]

% yield ในตามconcept ของ lean คือของดีที่ผลิตได้ทั้งหมดจากการผลิต นั่นคือ Input ใส่ไปเท่าไรเป็นของดีที่ผลิตได้ % อันนี้รวมตั้งแต่กระบวนการทดลองการผลิตด้วยนะครับ ส่วนใหญ่เอาไปคิด OEE ของเครื่องจักร
ส่วนคอขวดตามที่คุณwolfton อธิบายใช่เลยครับเป๊นจุดที่เกิด waste มากที่สุดในกระบวนการ ส่วนใหญ่คือการรอคอย ซึ่งคอขวดจะมีลักษณะแบบแก้ว หรือ เหล็ก ถ้าแบบแก้วคือสิ่งที่คุณ wolfton ตอบไปละคือสามารถแก้ไขได้ แต่ถ้าเป็นแบบเหล็กอาจต้องลงทุนเพิ่ม เช่น ซื้อเครื่องจักรเพิ่ม หรือ แยกกระบวนการนั้นไปทำ outsource ข้างนอกเพื่อให้ทันต่อกระบวนการ ลองพิจารณาก่อนครับว่าคอขวดอยู่ตรงไหน วิธีการส่วนใหญที่แก้ไขคือระบบ pull system แต่การปฏิบัติจริงทำได้ยากพอสมควร เนื่องจากเราต้อง control Suppiler ให้ได้ด้วย โชคดีครับ

[Kreetha]

เสริมเรื่อง yield ให้ครับพอดีไปได้มาจาก engineeringtoday เลยเอามาฝากต่อ
ลองศึกษาดูครับ

Attached Files

•  procuctivity_yield.pdf   1.42MB   8438 downloads

[iso_man]

ขอบคุณครับกีสุดหล่ออิอิ

[ติวเตอร์]

ขอบคุณครับ ทุกท่าน ขอถามอีกหน่อยครับ ถ้าหากมีของตีกลับจากลูกค้า เราต้องเอาของเสียไปลบจากyieldดี หรือไม่ครับ เช่น yield ดีเดิมมี10ชิ้น แล้วลูกค้าตีกลับมาชิ้นนึง ต้องเอา1ไปหักออกจาก10หรือป่าวครับ


ถามเรื่องคอขวดครับ คอขวดมีประโยชน์ยังไงครับ โรงงานผมผลิตเบเกอรี่ จุดคอขวดก็คงมีแต่การตรวจสอบผลิตภัณฑ์ก่อนส่งออกขาย นอกจากจุดตรวจสอบแล้วมีจุดอื่นไหมครับ พอดีไม่มีประสพการณ์ด้านนี้เลยครับ

[นายคุณภาพ]

thank kub

[iso_man]

ถามเรื่องคอขวดครับ คอขวดมีประโยชน์ยังไงครับ โรงงานผมผลิตเบเกอรี่ จุดคอขวดก็คงมีแต่การตรวจสอบผลิตภัณฑ์ก่อนส่งออกขาย นอกจากจุดตรวจสอบแล้วมีจุดอื่นไหมครับ พอดีไม่มีประสพการณ์ด้านนี้เลยครับ
ปกติคำว่าคอขวดประโยชน์ของมันคงไม่มีหรอกครับ เพราะมันคือความสูญเสียขององค์กรที่ต้องหมดไป ยิ่งมีมากเท่าไรในองค์กรที่สิ่งจะพบคือ Over Production/Process/ Stock ยิ่งคุณทำธุรกิจอาหารคอขวดต้องให้น้อยที่สุด เพราะของคุณต้องแข่งกับเวลาที่ต้องส่งของไปขายให้ลูกค้าได้ทันเวลาและใหม่สดเสมอ แต่ถ้ามองอีกมุมแบบ Positive คุณก็จะมีเรื่องให้แก้ไขปรับปรุงพัฒนาระบบไปเรื่อยๆนะครับอิอิ
ส่วนเรื่อง % yield ที่มีของคืนจากลูกค้าปกติเขาไม่นำมาคิดในการคำนวน แต่คงต้องไปจัดการว่ามันหลุดออกไปจากองค์กรอย่างไร แต่ถ้าคุณจะเอากลับมาคิดก็ไม่ผิดนะครับถ้้าสาเหตุจริงๆมาจากการผลิตนั้น แต่คงยุ่งยากพอสมควร

[Ning_kung]

เสริมเรื่อง yield ให้ครับพอดีไปได้มาจาก engineeringtoday เลยเอามาฝากต่อ
ลองศึกษาดูครับ

[App-Ple-Pao]

ถึง คุณ ISO man และ K. Kreetha

Primary yield กับ secondary yield ปกติเขาต้องคิดรวมกันหรือเปล่า? ถ้าชิ้นงานนั้นสามารถซ่อมแล้วเป็นของดี เพราะบางรุ่นงานก็คิดรวมแต่บางรุ่นงานก็แยกกัน

เลยงง ๆๆๆ เพราะตัวเองเป็นคนรวมรวบข้อมูลสำหรับ Balanced Scorecard ให้ผู้บริหารอยู่

อยากถามเพื่อนๆนะ

[iso_man]

ถึงคุณpaopao ปกติการคิด percent yeild ตามจริงคือเฉพาะของดีครั้งแรกที่ผลิตครับไม่เกี่ยวกับงานกลับไปซ่อม เพราะถ้ามองเรื่องต้นทุนจะชัดเจนครับว่างานซ่อมคือต้นทุนที่เสียเพิ่มขึ้น อีกอย่างเป็นจุดคอขวดของงานผลิตหากต้องรีบส่งของให้กับลูกค้า

[Kreetha]

ถึงพี่paopaoครับ
จะขอแชร์วิธีของผมก็แล้วกันครับ
วิธีการก็คือตั้งแต่เริ่มต้น(input)ไปจนกระทั่งสิ้นสุดกระบวนการ(output)
ถ้าเกิดของเสียขึ้นในกระบวนการแต่สามารถซ่อมให้เป็นของดีออกไป
ได้ทันเวลาก่อนการเก็บข้อมูลที่จะนำมาคำนวณyieldอันนี้ผมไม่นำมารวมครับ แต่ถ้าซ่อมเสร็จไม่ทันออกไม่ได้ อันนี้ต้องนำมาคิดครับ
ส่วนเรื่องต้นทุนในการซ่อมผมยกไปพิจารณาในCOPQครับ
แต่อย่างไรก็ตามจะคิดรวมหรือคิดแยกก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาครับ แต่ผู้คำนวณและวิเคราะห์ข้อมูลจะต้องสามารถอธิบายถึงที่มาที่ไป
ให้ชัดเจนให้คนอื่นเข้าใจตามได้

[นุกูล]

ขอบคุณครับ ทุกท่าน ขอถามอีกหน่อยครับ ถ้าหากมีของตีกลับจากลูกค้า เราต้องเอาของเสียไปลบจากyieldดี หรือไม่ครับ เช่น yield ดีเดิมมี10ชิ้น แล้วลูกค้าตีกลับมาชิ้นนึง ต้องเอา1ไปหักออกจาก10หรือป่าวครับ


ถามเรื่องคอขวดครับ คอขวดมีประโยชน์ยังไงครับ โรงงานผมผลิตเบเกอรี่ จุดคอขวดก็คงมีแต่การตรวจสอบผลิตภัณฑ์ก่อนส่งออกขาย นอกจากจุดตรวจสอบแล้วมีจุดอื่นไหมครับ พอดีไม่มีประสพการณ์ด้านนี้เลยครับ

ขอช่วยอธิบายคำว่า คอขวด น่ะครับ แรกๆที่เป็นมือใหม่ใจละอ่อนมาทำงานในโรงงานก็เคยสงสัยเหมือนกันครับ ว่าเจ้าคอขวดมันคืออะไร
ไม่เป็นไรครับ เป็นเรื่องธรรมดา ไม่รู้แล้วถามน่ะดีแล้วครับ
ลองนึกภาพคอของขวดดูน่ะครับ เอาขวดเหล้าก็ได้ ยิ่งถ้านึกถึงขวดเหล้าที่มีลูกกลิ้งอยู่ตรงคอมันยิ่งเข้าใจง่ายครับ
ตอนที่เรารินเหล้า จะสังเกตุเห็นว่า เหล้ามันจะไหลออกมาช้ามาก บางครั้งก็ต้องใช้เทคนิคในการกระตุกเล็กน้อย มันถึงจะไหลออกมา
นั่นก็เป็นเพราะว่า เหล้ามันจะมากระจุกอยู่ตรงคอของขวด เพราะคอของขวดมีขนาดเล็ก ทำให้อัตราการไหลของมันไม่ดี ทั้งๆที่ก้นของขวดมันก็ออกจะใหญ่ ว่าไหม

ในการทำงานก็เหมือนกัน กว่าสินค้าของเราจะผลิตเสร็จพร้อมขาย มันต้องผ่านกระบวนการหรือขั้นตอนเยอะแยะมากมาย จาก 1 ไป 2 จาก 2 ไป 3 จาก 3 ไป 4 เรื่อยๆ
ทีนี้ ถ้าเราออกแบบกระบวนการดี มันจะไหลราบเรียบ ราบรื่น ไม่มีการไปกระจุกอยู่ที่กระบวนการใดกระบวนการหนึ่ง
ไอ้ตรงนี้แหละ การที่สินค้าระหว่างผลิตของเรามันไปกระจุกอยู่ตรงไหนสักแห่ง ทำให้สินค้าออกช้า เพื่อนรอรับไปทำต่อก็ไม่ส่งมาสักที ชักช้า ใช้เวลาเยอะ
เราเรียกงานตรงนั้นว่า คอขวด เป็นคอขวดที่ทำให้งานไปกองกระจุกอยู่ ไม่ยอมไหลออกไปสักที หรือไหลออกแบบช้ามาก ทำให้เพื่อนเดือดร้อนเพราะไม่มีงานทำต่อ
ทำให้บริษัทเดือดร้อนเพราะไม่มีสินค้าส่ง หรือทำให้การส่งมอบล่าช้า จนทำให้ลูกค้าต้องกริ้ว คิ้วขมวด เป็นต้นครับ

คอขวดมีสาเหตุมาจากหลายอย่างครับ เช่น

1.การวางไลน์การผลิตโดยไม่ได้พิจารณาเรื่องเวลาในการทำงานของแต่ละกระบวนการให้สัมพั
นธ์กัน แก้ไขด้วยเทคนิค Line Balancing เช่น
ขั้นตอนที่หนึ่งใช้เวลาในการผลิต 1 นาที ขั้นตอนที่สองใช้เวลาในการผลิต 2 นาที ขั้นตอนที่ 3 ใช้เวลาในการผลิต 1 นาที แบบนี้ ขั้นตอนที่สองจะเกิดคอขวด (เหล้า) แหงๆ
อาจจะแก้ด้วยการเพิ่มเครื่องจักรในขั้นตอนที่สองเป็น 2 คน 2 เครื่อง งานที่ออกมาจะได้ Balance กับชาวบ้านได้ หรือ
อาจจะกำหนดให้ขั้นตอนที่หนึ่ง กับขั้นตอนที่สาม ทำโดยคนๆเดียวกัน 1 คน 2 เครื่อง ทำขั้นตอนที่ 1 สักพัก ก็ไปทำขั้นตอนที่สามต่อ ประมาณนั้นครับ

2.เกิดจากทักษะความชำนาญของคนงาน บางคนคล่องทำเร็ว บางคนใหม่ทำช้า (บางคนคล่องแต่ทำช้าก็มีน่ะครับ พวกแซ่อู้ แซ่ลี้ครับ) ถ้าเป็นแบบนี้ งานที่ออกมาก็ไม่ Balance กันได้ครับ

หลักสูตรนี้ที่ สสท. มีเปิดสอนให้เราได้เรียนรู้ครับ เรียกว่า Line Balancing Technique น่าจะสอนโดยอาจารย์ชื่อ นพดล อิ่มเอม ไม่แน่ใจว่าจำชื่ออาจารย์ถูกไหม
อาจารย์สอนดีครับ เน้น workshop ให้ได้ลองทำกันจริงๆใน Class ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก www.tpa.or.th ครับ

โชคดีน่ะครับผม

[App-Ple-Pao]

ถึง คุณ ISO man และคุณ Kreetha

ขอบคุณมากนะจ๊ะสำหรับคำตอบจะลองเสนอแนะหัวหน้าดูว่าที่อื่นเขาทำอย่างไรกันบ้าง เพราะมี Plan จะ reveiw KPI กันอยู่
ที่ทำงาน Process Owner ก็จะเป็นคนบอกเหตุที่มาที่ไปกับผู้บริหารเองเหมือนกัน

[cha_po]

ถึง คุณ ISO man และคุณ Kreetha

ขอบคุณมากนะจ๊ะสำหรับคำตอบจะลองเสนอแนะหัวหน้าดูว่าที่อื่นเขาทำอย่างไรกันบ้าง เพราะมี Plan จะ reveiw KPI กันอยู่
ที่ทำงาน Process Owner ก็จะเป็นคนบอกเหตุที่มาที่ไปกับผู้บริหารเองเหมือนกัน

ในความเห็นของผมนะ ต้องถามก่อนว่าจะนำ yield ตัวนี้ไปทำอะไร เช่นปรับปรุงกระบวนการ หรือ monitoring etc. จากนั้นก็หาวิธีการวัดที่เหมาะสมกับองค์กรนั้นๆ แหละครับ แต่ถ้ายากรู้ลึกลองไปดูที่ website: managerroom ก็แล้วกันครับ ปรึกษาอาจารย์ Jedi Master หรือถ้าสนใจแนวบริหารก็ อาจารย์วรภัทร เลยครับ