Jump to content


ท่านที่สมัครสมาชิกเข้ามาใหม่ กรุณารอให้ Admin ได้ทำการ Validate การเป็นสมาชิก ภายใน 24 ชม.ของวันทำการ ซึ่งระหว่างที่รอ Validation ท่านอาจจะยังไม่สามารถดาวน์โหลดข้อมูลต่างๆ ได้ หากไม่ได้รับความสะดวก กรุณาอีเมลแจ้ง isothainetwork@hotmail.com

Photo

Push system & Pull system


  • This topic is locked This topic is locked
8 replies to this topic

#1 schatjaeoen

schatjaeoen

    Supreme Member

  • Power Members
  • PipPipPipPip
  • 250 posts
  • Gender:Male

Posted 15 February 2010 - 04:09 PM

ผมอยากทราบว่าระบบ Push system กับ Pull system มันแตกต่างกันอย่างไรครับ
มีเอกสารด้วยจะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ

#2 iso_man

iso_man

    Super Hornor Member

  • Super Power Members
  • PipPipPipPipPipPip
  • 5,136 posts
  • Gender:Male

Posted 15 February 2010 - 04:20 PM

ระบบ Push system กับ Pull system มันแตกต่างกันอย่างไรครับ
ขอแชร์แล้วกันนะครับ Push system คือระบบที่ผลักให้คุณผลิตอย่างเดียว ง่ายๆๆคือผลิตตามความต้องการของบริษัทไม่ได้สนใจว่าลูกค้าจะต้องการซื้อขนาดไหน ส่วนใหญ่ระบบ Push จะเป็นลักษณะผลิตแล้วขายต่อเนื่องที่เห็นได้ชัดเลย เช่นธุรกิจอาหารแช่แข็ง หรือ KFC เบเกอรี่ อันนี้เขาจะประมาณการว่าจะขายเท่าไรก็จะไปทำการตลาดนำเพื่อผลักดันให้สิ่งที่ผลิตมาข
ายให้หมด หรือ ถ้าเป็นอุตสาหกรรมที่เราทำการผลิตคือ ผลิตตาม Forecast แต่ไม่ได้ผลิตตามลูกค้้าต้องการ
ส่วน Pull system ให้นึกถึงกัมบังเข้าไว้ คือจะผลิตเมื่อมี order จากลูกค้าเข้ามา ใช้ลักษณะของการดึงผลิตตาม order ของลูกค้า ข้อดีของระบบ Pull คือบริษัทจะไม่สต๊อกค้างเป็นจำนวนมาก แต่ข้อเสีย supply Chain ของบริษัทต้องดีเยี่ยม มีการ Control ได้ในระดับหนึ่ง ส่วนเอกสารคงหาอ่านได้ใน toyota way
ถ้าผิดพลาดประการใดของขออภัยนะที่นี้ด้วยครับ 4228.gif
การมีความรู้ มาจากการเรียนรู้ และปฏิบัติ หากเรียนอย่างเดียวไม่ปฏิบัีติก็เรียกว่ารุ้ไม่จริง
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ chatriwat@hotmail.com
Facebook: poppithai
Tel:089-6834451

#3 QMR ละอ่อน

QMR ละอ่อน

    Premium Member

  • Power Members
  • PipPipPip
  • 97 posts

Posted 15 February 2010 - 04:28 PM

Push system คือ การทำงาน ที่เป็นลักษณะของการผลัก คือ เมื่อแผนกหนึ่งทำงานเสร็จ แล้วก็ผลักไปให้อีกแผนกหนึ่ง ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆจน สิ้นสุดการผลิต ทำให้มีงานมากบางช่วงบางช่วงจะมีการว่างงาน ลักษณะเป็นคอคอด ส่งผลให้เกิดการสูญเปล่าในกระบวนการผลิต จากการรองาน และก็บางจุดจะมีงานรอทำอยู่มาก เป็นผลมากจากการ วางแผนกระบวนการผลิตไม่สมดุล

Pull system คือการทำงาน ที่เป็นลักษณะการดึง เจะทำให้งานมีประสิทธิภาพมากกว่าค่ะ หรือเรียกอีกอย่าง เหมือนกับระบบที่ใช้ใน seven-eleven ที่จะมีสินค้าอยู่ตลอดไม่มากเกินเมื่อมีการดึงไปใช้ก็จะมีการเติมใหม่อยู่เสมอ ทำให้ไม่เกิน wip ระหว่างการผลิตที่มี จะไม่มีการรองาน


อาจจะอธิบายได้งงๆนะคะ ถ้าไม่เข้าใจลองศึกษาระบบ lean manufacturing ดูนะคะ

#4 DooK

DooK

    Super Hornor Member

  • Super Power Members
  • PipPipPipPipPipPip
  • 1,511 posts
  • Gender:Male
  • Location:บางแสน

Posted 16 February 2010 - 07:42 AM

เสริมให้นิดนึงครับ

สำหรับผมมักจะมองลูกค้าเป็นศูนย์กลางครับคือ Push (ผลัก & ยัดเยียด) สินค้า ที่ตัวเองผลิตไปให้ลูกค้า โดยที่ลูกค้าอาจจะไม่ได้ต้องการ ผลิตเท่าไหร่ ก็เอาไปทำการตลาด ขายให้ลูกค้า อะไรประมาณนี้นะครับ ดังนั้นก็แน่นอนว่าคงส่งผลกับการผลิต คือจะผลิตยังไงก็ได้ ขอให้มีของไปขายเป็นพอ --> KFC, Chestergrill และข้าวแกงป้าเมี้ยน เป็นตัวอย่างที่เห็นชัดเจน

ในขณะที่แบบ Pull (ดึง) จากลูกค้า คือต้องมีความต้องการจากลูกค้ามาก่อน จึงจะเริ่มผลิตได้ตามปริมาณ และนำไปส่งตามเวลาที่ลูกค้าต้องการ ดังนั้นก็ส่งผลให้องค์กรต้องวางแผนการผลิตอย่างดี เพื่อให้ตอบสนองความต้องการนั้นได้ทันเวลา --> ร้านก๋วยเตี๋ยวนายไช้ น่าจะเป็นตัวแทนสำหรับการผลิตแบบนี้นะครับ




ลายเซ็น

#5 นุกูล

นุกูล

    Super Hornor Member

  • Super Power Members
  • PipPipPipPipPipPip
  • 4,797 posts
  • Gender:Male

Posted 16 February 2010 - 08:06 AM


Push --> Make To Stock ลูกค้าสั่งซื้อหรือยัง ยังไม่รู้ แต่ขอทำไว้ก่อน ผลิตไว้ก่อน สบายใจดี สั่งเมื่อไหร่ขนไปให้ได้ทันที (วิถีการผลิตตามความคิดรูปแบบเดิมๆ)

ข้อดี
ส่งสินค้าได้ทันที

ข้อเสีย
สต๊อกจม
ทุนจม
ค่าดูแลรักษสต๊อกสูง
สูญเสียพื้นที่ใช้งานเพราะต้องใช้เก็บรักษาสต๊อก
สินค้ามีโอกาสเสื่อมสภาพ เสีย ก่อนการนำไปใช้งาน

Pull (ภูกะดึง) --> Make To Order ลูกค้าสั่งฉันถึงจะผลิต ฉันถึงจะซื้อ Material เข้ามา ฉันไม่กลัวว่าจะทำไม่ทัน เพราะฉันควบคุมเรื่อง Man Materials Machine และมี Method ดี ประมาณนั้นครับ

ข้อดี กับข้อเสีย ตรงข้ามกันกับ Push System ครับ (ต้องจัดการทุกอย่างแบบ Just In Time ได้ เช่น การสั่ง Materials การ Set-Up การผลิตที่ควบคุมเวลาได้แบบแน่นอน เครื่องไม่ Down)

แบบสั้นๆยิ่งกว่า เกิลลี่ เบอรี่ อีกน่ะครับเนี่ย

Nukool Thanuanram
Mobile Phone: 097.954.4939

Facebook: Nukool Thanuanram

Fanpage: อาจารย์นุกูล วิทยากรสอนคนโรงงาน
LINE ID: nukool2001
E-Mail: nukool2001@gmail.com


เสือพี่เพราะป่าปก ป่ารกเพราะเสือยัง ดินเย็นเพราะหญ้าบัง และหญ้ายังเพราะดินดี "สรรพสิ่งล้วนเกื้อกูลพึ่งพาอาศัย ซึ่งกันและกัน"


#6 schatjaeoen

schatjaeoen

    Supreme Member

  • Power Members
  • PipPipPipPip
  • 250 posts
  • Gender:Male

Posted 16 February 2010 - 08:46 AM

ขอบคุณครับ

#7 SL4

SL4

    Hornor Member

  • Super Power Members
  • PipPipPipPipPip
  • 663 posts
  • Gender:Male
  • Location:Hemaraj Eastern Seaboard. Rayong.

Posted 16 February 2010 - 09:10 AM

จำได้ว่า ผมเคยแปะไว้นิดหน่อยครับ
http://www.isothai.c...?showtopic=2570
--Learning from mistaken--

#8 นุกูล

นุกูล

    Super Hornor Member

  • Super Power Members
  • PipPipPipPipPipPip
  • 4,797 posts
  • Gender:Male

Posted 16 February 2010 - 09:14 AM


ป๋าเหนาะ อย่าลืมเช็ค mail น่ะครับ

Nukool Thanuanram
Mobile Phone: 097.954.4939

Facebook: Nukool Thanuanram

Fanpage: อาจารย์นุกูล วิทยากรสอนคนโรงงาน
LINE ID: nukool2001
E-Mail: nukool2001@gmail.com


เสือพี่เพราะป่าปก ป่ารกเพราะเสือยัง ดินเย็นเพราะหญ้าบัง และหญ้ายังเพราะดินดี "สรรพสิ่งล้วนเกื้อกูลพึ่งพาอาศัย ซึ่งกันและกัน"


#9 iso_man

iso_man

    Super Hornor Member

  • Super Power Members
  • PipPipPipPipPipPip
  • 5,136 posts
  • Gender:Male

Posted 16 February 2010 - 09:50 AM

เอาตย. Concept มาให้อ่านดูเปรียบเทียบครับ

Attached Files


การมีความรู้ มาจากการเรียนรู้ และปฏิบัติ หากเรียนอย่างเดียวไม่ปฏิบัีติก็เรียกว่ารุ้ไม่จริง
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ chatriwat@hotmail.com
Facebook: poppithai
Tel:089-6834451




1 user(s) are reading this topic

0 members, 1 guests, 0 anonymous users