ท่านที่สมัครสมาชิกเข้ามาใหม่ กรุณารอให้ Admin ได้ทำการ Validate การเป็นสมาชิก ภายใน 24 ชม.ของวันทำการ ซึ่งระหว่างที่รอ Validation ท่านอาจจะยังไม่สามารถดาวน์โหลดข้อมูลต่างๆ ได้ หากไม่ได้รับความสะดวก กรุณาอีเมลแจ้ง isothainetwork@hotmail.com

Push system & Pull system
#1
Posted 15 February 2010 - 04:09 PM
มีเอกสารด้วยจะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ
#2
Posted 15 February 2010 - 04:20 PM
ขอแชร์แล้วกันนะครับ Push system คือระบบที่ผลักให้คุณผลิตอย่างเดียว ง่ายๆๆคือผลิตตามความต้องการของบริษัทไม่ได้สนใจว่าลูกค้าจะต้องการซื้อขนาดไหน ส่วนใหญ่ระบบ Push จะเป็นลักษณะผลิตแล้วขายต่อเนื่องที่เห็นได้ชัดเลย เช่นธุรกิจอาหารแช่แข็ง หรือ KFC เบเกอรี่ อันนี้เขาจะประมาณการว่าจะขายเท่าไรก็จะไปทำการตลาดนำเพื่อผลักดันให้สิ่งที่ผลิตมาข
ายให้หมด หรือ ถ้าเป็นอุตสาหกรรมที่เราทำการผลิตคือ ผลิตตาม Forecast แต่ไม่ได้ผลิตตามลูกค้้าต้องการ
ส่วน Pull system ให้นึกถึงกัมบังเข้าไว้ คือจะผลิตเมื่อมี order จากลูกค้าเข้ามา ใช้ลักษณะของการดึงผลิตตาม order ของลูกค้า ข้อดีของระบบ Pull คือบริษัทจะไม่สต๊อกค้างเป็นจำนวนมาก แต่ข้อเสีย supply Chain ของบริษัทต้องดีเยี่ยม มีการ Control ได้ในระดับหนึ่ง ส่วนเอกสารคงหาอ่านได้ใน toyota way
ถ้าผิดพลาดประการใดของขออภัยนะที่นี้ด้วยครับ

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ chatriwat@hotmail.com
Facebook: poppithai
Tel:089-6834451
#3
Posted 15 February 2010 - 04:28 PM
Pull system คือการทำงาน ที่เป็นลักษณะการดึง เจะทำให้งานมีประสิทธิภาพมากกว่าค่ะ หรือเรียกอีกอย่าง เหมือนกับระบบที่ใช้ใน seven-eleven ที่จะมีสินค้าอยู่ตลอดไม่มากเกินเมื่อมีการดึงไปใช้ก็จะมีการเติมใหม่อยู่เสมอ ทำให้ไม่เกิน wip ระหว่างการผลิตที่มี จะไม่มีการรองาน
อาจจะอธิบายได้งงๆนะคะ ถ้าไม่เข้าใจลองศึกษาระบบ lean manufacturing ดูนะคะ
#4
Posted 16 February 2010 - 07:42 AM
สำหรับผมมักจะมองลูกค้าเป็นศูนย์กลางครับคือ Push (ผลัก & ยัดเยียด) สินค้า ที่ตัวเองผลิตไปให้ลูกค้า โดยที่ลูกค้าอาจจะไม่ได้ต้องการ ผลิตเท่าไหร่ ก็เอาไปทำการตลาด ขายให้ลูกค้า อะไรประมาณนี้นะครับ ดังนั้นก็แน่นอนว่าคงส่งผลกับการผลิต คือจะผลิตยังไงก็ได้ ขอให้มีของไปขายเป็นพอ --> KFC, Chestergrill และข้าวแกงป้าเมี้ยน เป็นตัวอย่างที่เห็นชัดเจน
ในขณะที่แบบ Pull (ดึง) จากลูกค้า คือต้องมีความต้องการจากลูกค้ามาก่อน จึงจะเริ่มผลิตได้ตามปริมาณ และนำไปส่งตามเวลาที่ลูกค้าต้องการ ดังนั้นก็ส่งผลให้องค์กรต้องวางแผนการผลิตอย่างดี เพื่อให้ตอบสนองความต้องการนั้นได้ทันเวลา --> ร้านก๋วยเตี๋ยวนายไช้ น่าจะเป็นตัวแทนสำหรับการผลิตแบบนี้นะครับ
#5
Posted 16 February 2010 - 08:06 AM
Push --> Make To Stock ลูกค้าสั่งซื้อหรือยัง ยังไม่รู้ แต่ขอทำไว้ก่อน ผลิตไว้ก่อน สบายใจดี สั่งเมื่อไหร่ขนไปให้ได้ทันที (วิถีการผลิตตามความคิดรูปแบบเดิมๆ)
ข้อดี
ส่งสินค้าได้ทันที
ข้อเสีย
สต๊อกจม
ทุนจม
ค่าดูแลรักษสต๊อกสูง
สูญเสียพื้นที่ใช้งานเพราะต้องใช้เก็บรักษาสต๊อก
สินค้ามีโอกาสเสื่อมสภาพ เสีย ก่อนการนำไปใช้งาน
Pull (ภูกะดึง) --> Make To Order ลูกค้าสั่งฉันถึงจะผลิต ฉันถึงจะซื้อ Material เข้ามา ฉันไม่กลัวว่าจะทำไม่ทัน เพราะฉันควบคุมเรื่อง Man Materials Machine และมี Method ดี ประมาณนั้นครับ
ข้อดี กับข้อเสีย ตรงข้ามกันกับ Push System ครับ (ต้องจัดการทุกอย่างแบบ Just In Time ได้ เช่น การสั่ง Materials การ Set-Up การผลิตที่ควบคุมเวลาได้แบบแน่นอน เครื่องไม่ Down)
แบบสั้นๆยิ่งกว่า เกิลลี่ เบอรี่ อีกน่ะครับเนี่ย
Nukool Thanuanram
Mobile Phone: 097.954.4939
Facebook: Nukool Thanuanram
Fanpage: อาจารย์นุกูล วิทยากรสอนคนโรงงาน
LINE ID: nukool2001
E-Mail: nukool2001@gmail.com
เสือพี่เพราะป่าปก ป่ารกเพราะเสือยัง ดินเย็นเพราะหญ้าบัง และหญ้ายังเพราะดินดี "สรรพสิ่งล้วนเกื้อกูลพึ่งพาอาศัย ซึ่งกันและกัน"
#6
Posted 16 February 2010 - 08:46 AM
#7
Posted 16 February 2010 - 09:10 AM
#8
Posted 16 February 2010 - 09:14 AM
ป๋าเหนาะ อย่าลืมเช็ค mail น่ะครับ
Nukool Thanuanram
Mobile Phone: 097.954.4939
Facebook: Nukool Thanuanram
Fanpage: อาจารย์นุกูล วิทยากรสอนคนโรงงาน
LINE ID: nukool2001
E-Mail: nukool2001@gmail.com
เสือพี่เพราะป่าปก ป่ารกเพราะเสือยัง ดินเย็นเพราะหญ้าบัง และหญ้ายังเพราะดินดี "สรรพสิ่งล้วนเกื้อกูลพึ่งพาอาศัย ซึ่งกันและกัน"
#9
Posted 16 February 2010 - 09:50 AM
Attached Files
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ chatriwat@hotmail.com
Facebook: poppithai
Tel:089-6834451
1 user(s) are reading this topic
0 members, 1 guests, 0 anonymous users