4 replies to this topic

[beeko]

และผู้ดูแลเอกสาร กับ QMR จำเป็นต้องมี 2 คนหรือเปล่า ปกติงาน
QMR ก็ไม่ได้มีงานประจำทำทุกวัน แต่ละที่ส่วนใหญ่ให้ทำงานควบคู่เรื่องใดบ้างค่ะ

[นุกูล]

และผู้ดูแลเอกสาร กับ QMR จำเป็นต้องมี 2 คนหรือเปล่า ปกติงาน
QMR ก็ไม่ได้มีงานประจำทำทุกวัน แต่ละที่ส่วนใหญ่ให้ทำงานควบคู่เรื่องใดบ้างค่ะ

ถ้าเราอยากได้อะไรดีๆจากการทำระบบ อยากได้กิจกรรม และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในบริษัท แนะนำว่า
มี QMR 1 คน และ
มี DCC อีก 1 คน หรือ
ถ้าไม่มี DCC เฉพาะ แนะนำให้หาเป็น Ass.QMR มาแทนก็ได้

สรุปคือ มี 2 คนดีกว่า ถ้าให้ QMR รับเหมาทั้งงานระบบและงาน DCC เราอาจได้ QMR แบบเสมียนๆก็ได้น่ะครับ วันๆต้องนั่งทำแต่งาน Documents อะไรแบบนี้
งานปรับปรุงระบบก็จะน้อย ประสิทธิภาพงานหลายอย่างลดลง

เช่น

การ Audit ก็ทำได้ไม่ดี การติดตาม CAR-PAR จะเป็นแบบรีบปิดๆไป ตอบยังไงมาก็โอเค ไม่มีเวลามาดู RCA และ Eff. ให้ ก็เลยไม่ได้ประโยชน์จากการ Audit
งาน Management Review ข้อมูลก็จะไม่แน่น พอไม่แน่น ผู้บริหารก็แนะนำหรือสั่งการได้ไม่ชัด หรือสั่งการแบบผิดๆถูกๆ เพราะข้อมูลไม่ใช่ Fact ก็เจ็บตัวกันอีก
กระบวนการพัฒนาพนักงาน พัฒนาทีมงาน Internal Auditor ก็เลยไม่ต้องพูดถึงกันพอดี เพราะ QMR มัวแต่เดินแจกเอกสาร ฯลฯ

เงินเดือน QMR ก็สามารถเทียบกับระดับ Manager ทั่วๆไปในบริษัทได้ครับ ผมรู้จักหลายท่าน ที่ได้ตั้งแต่ 20K จนถึงเกือบ 70K
ทั้งนี้ คงต้องขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและ Competence ของแต่ละท่านด้วย

มีเป็นคู่ดีกว่าน่ะ ... ฟันธง !

[Tuk]

ขึ้นอยู่กับความต้องการขององค์กรเป็นหลักครับ ว่าอยากได้ระบบที่เป็นระบบจริงๆหรือต้องการแค่กระดาษ(Certificate)เท่านั้น
หลังจากนั้นค่อยมาดูว่า บุคลากรในองค์กรมีความสามารถที่จะทำได้อย่างที่ต้องการหรือไม่ เช่น คนเดียวอาจจะทำทั้ง QMR & DCC
เลยก็ได้ แต่อย่างที่ อ.นุกูลบอก ถ้าอยากใช้ระบบเป็นตัวขับเคลื่อนองค์กร ควรต้องพิจารณาเรื่องของ Job Description ให้ดี
ไม่ใช่แค่แต่งตั้งให้ได้ชื่อว่าเป็น QMR แต่ไม่เคยทำหน้าที่หรือรับผิดชอบ QMS ขององค์กรเลย

[nongnan2229]

อาจารย์นุกูลพูดถูกทุกประการเลยค่ะ บริษัทนันก้อทำแบบนั้นค่ะ

[stormriders]

บริษัทของผมคนเดียวทำทุกอย่าง ทั้งงานประจำและงานระบบ ผลออกมาไม่ค่อยดี อย่างที่อ. นุกูลบอกถูกต้องเลยครับต้องแยกให้ชัดเจนจึงจะเหมาะสม เพราะบริษัทของผมดูเหมือนดี แต่ข้างในไม่ดีอย่างภาพครับ