25 replies to this topic

[เรือน้อย]

ขอคำแนะนำจากพี่ๆ ค่ะ

เดิมที ทุกหน่วยงานของที่บริษัทจะมี QP อย่างน้อย 1 ฉบับ QP ฉบับหนึ่งมีประมาณ 2-3 หน้า รู้สึกว่าเสียเวลาอ่าน จึงตัด QP บางฉบับออก(โดยเฉพาะหน่วยงานในฝ่ายผลิต) จากนั้นเขียนแค่ Process Flow ให้เห็นภาพว่าขั้นตอนการทำงานในหน่วยงานนั้นๆ มีอะไรบ้าง flow อย่างไร และระบุชื่อเอกสาร WI กำกับไว้ในแต่ละกระบวนการย่อยที่ปรากฏใน flow chart

ถามว่า flow chart นี้ต้องมีรหัสเอกสารควบคุม ใช่หรือไม่คะ
แล้วจัดเป็นเอกสารระดับที่แทน QP ได้หรือไม่คะ

ขอบคุณค่ะ

[เรือน้อย]

ขอคำแนะนำจากพี่ๆ ค่ะ

เดิมที ทุกหน่วยงานของที่บริษัทจะมี QP อย่างน้อย 1 ฉบับ QP ฉบับหนึ่งมีประมาณ 2-3 หน้า รู้สึกว่าเสียเวลาอ่าน จึงตัด QP บางฉบับออก(โดยเฉพาะหน่วยงานในฝ่ายผลิต) จากนั้นเขียนแค่ Process Flow ให้เห็นภาพว่าขั้นตอนการทำงานในหน่วยงานนั้นๆ มีอะไรบ้าง flow อย่างไร และระบุชื่อเอกสาร WI กำกับไว้ในแต่ละกระบวนการย่อยที่ปรากฏใน flow chart

ถามว่า flow chart นี้ต้องมีรหัสเอกสารควบคุม ใช่หรือไม่คะ
แล้วจัดเป็นเอกสารระดับที่แทน QP ได้หรือไม่คะ

ขอบคุณค่ะ

อุ่ย!! ขออภัยค่ะ ใส่คำถามผิดหมวด

[ทิ.]

- ในการกำหนดกระบวนการ (QP)
ต้องมีความจำเป็นต่อระบบ QMS ----> ข้อกำหนด 4.1a

- ในการเปลี่ยนรูปแบบของ QP
ถ้าตอบคำถามเกี่ยวกับ ----> 5W + 1H ได้ก็ ...OK. ครับ!!!

[จอมโจรจอมใจ]

ข้อดีของการเขียนเป็น flow ก็คือ สามารถที่จะเห็น และเข้าใจขั้นตอนต่างๆ ได้ง่าย
แต่ทแว้..เอ๊ยย แต่ทว่า...

ประเด็นบางอย่าง หรือ การปฏิบัติงานทางเทคนิคเนี่ย หลายๆ ครั้งจะพบว่า เหมาะที่จะเขียนเป็น wording มากกว่าจะเขียนออกมาเป็น flow แต่บางประเด็นเขียนเป็น flow ก็จะง่ายกว่า หากเราเอาประเด็นที่เหมาะจะเขียนเป็น wording ไปเขียนเป็น flow อาจจะทำให้รู้สึกว่า หัวหูบาน โดยไม่ได้ตั้งใจ เช่น

1) พนักงานขับรถ จะต้องเข้ารับการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด ก่อนเริ่มงานในแต่ละวัน และอาจมีการสุ่มตรวจตามความจำเป็น หากผลการตรวจพบว่า มีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดมากกว่า 0 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ ไม่อนุญาตให้พนักงานออกไปปฏิบัติงาน นอกจากนั้น หากการมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือด มีหลักฐานที่เชื่อได้ว่า เกิดจากการที่พนักงานดื่มสุราในเวลาทำงาน พนักงานผู้นั้นจะต้องได้รับโทษตามที่กำหนดไว้ใน ข้อบังคับการทำงานของบริษัท

ประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสมนะครับ อะไรที่มันไม่ซับซ้อนนัก ก็เขียนเป็น flow หรือหากซับซ้อนต้องการรายละเอียดเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย ก็เขียนประกอบๆ กันไป แต่ไม่ว่าจะเขียนแบบไหน ไม่ว่าแมวจะสีอะไร ขอให้จับหนูได้ก็พอ

[ทิ.]

- QP เรื่องอื่นๆตัดทิ้งได้ (ถ้าไม่มีผลกระทบ
ต่อระบบ QMS หรือความสอดคล้องกับข้อกำหนด
ของผลิตภัณฑ์)

- ยกเว้น QP 6 เล่ม ห้ามตัดทิ้ง (เพราะว่าเป็น
QP ที่ระบบ ISO9001 กำหนดให้ต้องมี ?)
คือเรื่องเกี่ยวกับ ----> NCR, PAR, CAR, IQA, 4.2.3 , 4.2.4 .....ครับ!!!

[DooK]

ข้อดีของการเขียนเป็น flow ก็คือ สามารถที่จะเห็น และเข้าใจขั้นตอนต่างๆ ได้ง่าย
แต่ทแว้..เอ๊ยย แต่ทว่า...

ประเด็นบางอย่าง หรือ การปฏิบัติงานทางเทคนิคเนี่ย หลายๆ ครั้งจะพบว่า เหมาะที่จะเขียนเป็น wording มากกว่าจะเขียนออกมาเป็น flow แต่บางประเด็นเขียนเป็น flow ก็จะง่ายกว่า หากเราเอาประเด็นที่เหมาะจะเขียนเป็น wording ไปเขียนเป็น flow อาจจะทำให้รู้สึกว่า หัวหูบาน โดยไม่ได้ตั้งใจ เช่น

1) พนักงานขับรถ จะต้องเข้ารับการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด ก่อนเริ่มงานในแต่ละวัน และอาจมีการสุ่มตรวจตามความจำเป็น หากผลการตรวจพบว่า มีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดมากกว่า 0 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ ไม่อนุญาตให้พนักงานออกไปปฏิบัติงาน นอกจากนั้น หากการมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือด มีหลักฐานที่เชื่อได้ว่า เกิดจากการที่พนักงานดื่มสุราในเวลาทำงาน พนักงานผู้นั้นจะต้องได้รับโทษตามที่กำหนดไว้ใน ข้อบังคับการทำงานของบริษัท

ประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสมนะครับ อะไรที่มันไม่ซับซ้อนนัก ก็เขียนเป็น flow หรือหากซับซ้อนต้องการรายละเอียดเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย ก็เขียนประกอบๆ กันไป แต่ไม่ว่าจะเขียนแบบไหน ไม่ว่าแมวจะสีอะไร ขอให้จับหนูได้ก็พอ

เห็นควรด้วยครับ

แล้วก็เสริมให้อีกนิด การเขียนเป็น Flowchart จะช่วยให้เราพิจารณาและทำความเข้าใจขั้นตอนการทำงานได้ดีขึ้น

และเมื่อถึงขั้นต้องปรับปรุง ก็ทำให้มองเห็นภาพว่าควรปรับปรุงตรงไหนก่อน ตัดขั้นตอนที่ยุ่งยากเยิ่นเย้อทิ้งได้ เป็นไปตามหลัก TQM นะเออ

[นุกูล]

ขอคำแนะนำจากพี่ๆ ค่ะ

เดิมที ทุกหน่วยงานของที่บริษัทจะมี QP อย่างน้อย 1 ฉบับ QP ฉบับหนึ่งมีประมาณ 2-3 หน้า รู้สึกว่าเสียเวลาอ่าน จึงตัด QP บางฉบับออก(โดยเฉพาะหน่วยงานในฝ่ายผลิต) จากนั้นเขียนแค่ Process Flow ให้เห็นภาพว่าขั้นตอนการทำงานในหน่วยงานนั้นๆ มีอะไรบ้าง flow อย่างไร และระบุชื่อเอกสาร WI กำกับไว้ในแต่ละกระบวนการย่อยที่ปรากฏใน flow chart

ถามว่า flow chart นี้ต้องมีรหัสเอกสารควบคุม ใช่หรือไม่คะ
แล้วจัดเป็นเอกสารระดับที่แทน QP ได้หรือไม่คะ

ขอบคุณค่ะ

มาตรฐานไม่ได้บังคับรูปแบบเอกสารน่ะครับ ทำเป็น Flow chart ก็ได้ แต่ตรงไหนที่เป็นจุดสำคัญๆที่ต้องระวัง (จุด SC)
เราก็อาจจะเพิ่มเติมเป็นอุดม แต้พาณิชเอาก็ได้ครับ

รหัสเอกสาร มาตรฐานก็ไม่บังคับ ขึ้นอยู่กับ Procedure เรื่องการควบคุมเอกสารของเราเอง จะเรียกเป็นชื่อเอกสารนั้นๆเลยก็ได้
ไม่ต้องตั้งเป็น QP ก็ได้ เรียกว่า ขั้นตอนปฏิบัติงานเรื่องนั้นๆไปเลยครับ
แบบฟอร์มก็ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็น FM หรือ AM จะเรียกชื่อฟอร์มไปเลยก็ได้ เช่น อบรมเสร็จแล้วให้บันทึกในแบบฟอร์ม "บันทึกการฝึกอบรม"

Flow Chart ตามที่ว่ามาจัดว่าเป็นเอกสารระดับ Procedure ได้ครับ (แล้วทำไมต้องจัดระดับครับ เงินเดือนจะขึ้นตามระดับเอกสารเหรอ)

แต่ที่แน่ๆ เอกสารทั้งหลายเหล่านี้ ต้องได้รับการควบคุมตามข้อ 423 และ 424 น่ะจ๊ะ

ข้อควรระวังจากประสบการณ์....ถ้า
คนของคุณเป็นประเภทไม่ชอบใช้ความคิดในทางที่ดี
คนของคุณการศึกษาน้อย ประสบการณ์น้อย
การฝึกอบรมของคุณยังไม่ดีนัก
การเขียนเป็น Flow Chart อย่างเดียว ระวังจะเกิดปัญหาตามมา เหมือนที่คุณพี่จอมโจรติงมาได้น่ะครับ

ยกตัวอย่าง Flow Chart ของกระบวนการฝึกอบรม
1.HR วิเคราะห์ความสามารถที่จำเป็นของแต่ละตำแหน่งงาน
2.HR วิเคราะห์หาโปรแกรมที่เกี่ยวข้อง
3.HR จัดทำแผนประจำปี ......................จนจบกระบวนการ
ถ้า ผม ลูกค้า หรือ Auditor ถาม HR ว่า "การวิเคราะห์ความสามารถที่จำเป็น HR ทำยังไงจ๊ะ"
คุณคิดว่า HR ตอบได้ไหม ตอบได้จบ ......... ตอบไม่ได้ จบเหมือนกัน แต่อาจจะจบชีวิตครับ

ลองพิจารณาดูครับ ใจจริงเห็นด้วยน่ะครับ แต่ต้องไปเน้นเรื่อง Training กำกับด้วยน่ะ สู้ๆครับ

[iso_man]

อย่างอ.นุกูลบอกเลยของผมใช้เป็น Flow Chart ปัญหาคือมันไม่สามารถลง Detail ลึกได้ ดังนั้นมันจึงต้องมีเอกสารมา Support ต่อคนข้างเยอะเพื่อให้เข้าใจ แต่ข้อดีขอมันคือมองภาพโดยรวมเข้าใจได้ง่าย เพราะฉะนั้นในส่วน Detail ก็ควรเลือกที่สำคัญ บ้างครั้งผมจัดทำ้เป็น one page lesson ให้กับพนักงานประกอบด้วย

[นุกูล]

ลองดูตัวอย่างที่แนบมาประกอบด้วยก็ได้น่ะครับ ถ้ารักพี่เสียดายน้อง ก็เล่นทั้งคู่เลยสิครับ
ผมใช้เป็น Flow Chart + การอธิบายประกอบอีกบางส่วน (ออกแนวลูกครึ่ง ไม่ใช่ครึ่งลูกน่ะครับ) ก็น่าจะพอได้ระดับหนึ่ง
(เชื่อไหม...ขนาด QMR บางท่าน ยังไม่เข้าใจว่าการ Management Review ต้องทำยังไงก็มีน่ะครับ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ของเขาแรงครับ)

[catdyeye_1234]

ลองดูตัวอย่างที่แนบมาประกอบด้วยก็ได้น่ะครับ ถ้ารักพี่เสียดายน้อง ก็เล่นทั้งคู่เลยสิครับ
ผมใช้เป็น Flow Chart + การอธิบายประกอบอีกบางส่วน (ออกแนวลูกครึ่ง ไม่ใช่ครึ่งลูกน่ะครับ) ก็น่าจะพอได้ระดับหนึ่ง
(เชื่อไหม...ขนาด QMR บางท่าน ยังไม่เข้าใจว่าการ Management Review ต้องทำยังไงก็มีน่ะครับ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ของเขาแรงครับ)

เก็บข้อมูล

ขอบคุณนะค่ะ ท่าน อ.นุกูล

[iso_man]

จิงๆด้วยอย่างที่อ.นุูกูลบอกไม่เชื่ออย่าลบลู่ ขอบคุณนะครับที่เอามาแชร์ประสบการณ์

[dee]

ขอบคุณค่ะคุณนุกูล
พอดีได้ยินคำถามเปรยๆ จากพี่ๆ ที่บริษัทสาขาสอง ว่า CB ที่เข้ามา Audit ทักว่า ที่ทำงานยังใช้ Fowchart ในการเขียน QP กะ WI อยู่อีกหรือ ตอนนี้มันตกยุคไปแล้ว ก็เลยงงน่ะค่ะว่าตอนนี้มันมีวิธีอะไรใหม่กว่าการเขียน QP+WI ด้วย Flow chart ด้วยหรือคะ

[นุกูล]

ขอบคุณค่ะคุณนุกูล
พอดีได้ยินคำถามเปรยๆ จากพี่ๆ ที่บริษัทสาขาสอง ว่า CB ที่เข้ามา Audit ทักว่า ที่ทำงานยังใช้ Fowchart ในการเขียน QP กะ WI อยู่อีกหรือ ตอนนี้มันตกยุคไปแล้ว ก็เลยงงน่ะค่ะว่าตอนนี้มันมีวิธีอะไรใหม่กว่าการเขียน QP+WI ด้วย Flow chart ด้วยหรือคะ

ดีมากเลยครับที่ถามคำถามนี้
ตอนนี้ ผมมีแนะนำบางที่ให้ใช้การถ่ายทำเป็น VCD ครับ ไม่ใช่ Clip VDO น่ะ
เอา VCD ที่ถ่ายทำกันนี้แหละมาเป็น Proceure และ WI ก็ใช้ได้ครับ มีภาพ และเสียง ยิ่งช่วยให้เรียนรู้และเข้าใจได้ง่าย เสียดายไม่มีกลิ่นด้วย

อยากเอามาลงให้ดูเหมือนกันครับ แต่ไฟล์มันมีขนาดใหญ่ และเนื้อหาบางส่วนมันก็ลับๆอยู่บ้าง
ลองดูครับ ถ้าพอมีกำลังทำได้ ทุกวันนี้เทคโนโลยีช่วยเราได้เยอะ ใช้กล้องถ่ายภาพแบบดิจิตอลก็ได้ ถ่ายเสร็จก็เขียนลงแผ่น
หรือจะควบคุมเป็นไฟล์นั้นๆเลยก็ได้ สะดวกดีครับ

อย่าถามน่ะครับ ว่าจะควบคุม อนุมัติและแจกจ่ายยังไง ง่ายมากเลย

[นุกูล]

แถมอีกนิดนึงครับ
เรื่องบันทึกก็เหมือนกัน ไม่ใช้กระดาษ ไม่มานั่งขีดๆเขียนๆแล้ว ขี้เกียจ ยกตัวอย่างเช่น
บันทึกการประชุม บันทึกการทบวนโดยฝ่ายบริหาร ก็ใช้เครื่องอัดเสียง และจัดเก็บเป็นไฟล์ mp3 ก็มีทำกันแล้วน่ะครับ
ลองดูครับ ว่าเราพอจะประยุกต์ใช้ได้ยังไงบ้าง น่าสนใจหมือนกันครับ

[ทิ.]

- สุดท้าย....ตอน CB มาประเมิน/ตรวจติดตาม
ก็คงต้องเตรียมเอกสาร กำหนดขั้นตอน
แต่ละกระบวนให้ชัดเจน (5W + 1H) ครับ!!!

[นุกูล]

- สุดท้าย....ตอน CB มาประเมิน/ตรวจติดตาม
ก็คงต้องเตรียมเอกสาร กำหนดขั้นตอน
แต่ละกระบวนให้ชัดเจน (5W + 1H) ครับ!!!

Auditor เขารู้ครับ ว่าอะไรบ้างที่จะถือหรือจะเรียกว่าเป็นเอกสารได้บ้าง

3.4.5
procedure
specified way to carry out an activity or a process (3.4.1)

-NOTE 1 Procedures can be documented or not.
-NOTE 2 When a procedure is documented, the term “written procedure” or “documented procedure” is frequently used.
The document (3.7.2) that contains a procedure can be called a “procedure document”.

3.7.2
document
information (3.7.1) and its supporting medium
EXAMPLE Record (3.7.6), specification (3.7.3), procedure document, drawing, report, standard.

-NOTE 1 The medium can be paper, magnetic, electronic or optical computer disc, photograph or master sample, or a
combination thereof.
-NOTE 2 A set of documents, for example specifications and records, is frequently called “documentation”.
-NOTE 3 Some requirements (3.1.2) (e.g. the requirement to be readable) relate to all types of documents, however there
can be different requirements for specifications (e.g. the requirement to be revision controlled) and records (e.g. the
requirement to be retrievable)

ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ครับ ทุกวันนี้เรื่อง e-documents ยังช่วยลดการใช้กระดาษ รักษ์ และ รักษาสิ่งแวดล้อมได้ด้วยครับ
คน ISO ถ้ารัก Env ด้วย ก็จะยิ่งยอดเยี่ยมกระเทียมดองครับ

[ทิ.]

- ผมหมายถึง...ว่าเรา/องค์กร ครับ!
(ในการเตรียมตัว)

- ไม่ใช่ CB ครับ!!!!!!!

[doremon]

Auditor เขารู้ครับ ว่าอะไรบ้างที่จะถือหรือจะเรียกว่าเป็นเอกสารได้บ้าง

3.4.5
procedure
specified way to carry out an activity or a process (3.4.1)

-NOTE 1 Procedures can be documented or not.
-NOTE 2 When a procedure is documented, the term “written procedure” or “documented procedure” is frequently used.
The document (3.7.2) that contains a procedure can be called a “procedure document”.

3.7.2
document
information (3.7.1) and its supporting medium
EXAMPLE Record (3.7.6), specification (3.7.3), procedure document, drawing, report, standard.

-NOTE 1 The medium can be paper, magnetic, electronic or optical computer disc, photograph or master sample, or a
combination thereof.
-NOTE 2 A set of documents, for example specifications and records, is frequently called “documentation”.
-NOTE 3 Some requirements (3.1.2) (e.g. the requirement to be readable) relate to all types of documents, however there
can be different requirements for specifications (e.g. the requirement to be revision controlled) and records (e.g. the
requirement to be retrievable)

ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ครับ ทุกวันนี้เรื่อง e-documents ยังช่วยลดการใช้กระดาษ รักษ์ และ รักษาสิ่งแวดล้อมได้ด้วยครับ
คน ISO ถ้ารัก Env ด้วย ก็จะยิ่งยอดเยี่ยมกระเทียมดองครับ

ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำแนะนำดีๆ จริงๆ แล้วอยากทำ e-document มากค่ะ แต่ติดปัญหาในเรื่องของส่วนงานของ IT ที่ไม่ให้ความร่วมมือในการทำระบบ e-document น่ะค่ะ ทั้งๆ ที่ตอนนี้ข้อกำหนด 6.3 ได้เพิ่ม คำว่า "ระบบสารสนเทศ" เข้าไปนิดนึง แต่ยังไงก็ยังไม่อยากแตะระบบ ISO อยู่ดี ทั้งที่จริงๆ แล้ว IT กับระบบก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานแล้ว (ขอโทษทีค่ะ ขอบ่นนิดนึง)

[นุกูล]

ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำแนะนำดีๆ จริงๆ แล้วอยากทำ e-document มากค่ะ แต่ติดปัญหาในเรื่องของส่วนงานของ IT ที่ไม่ให้ความร่วมมือในการทำระบบ e-document น่ะค่ะ ทั้งๆ ที่ตอนนี้ข้อกำหนด 6.3 ได้เพิ่ม คำว่า "ระบบสารสนเทศ" เข้าไปนิดนึง แต่ยังไงก็ยังไม่อยากแตะระบบ ISO อยู่ดี ทั้งที่จริงๆ แล้ว IT กับระบบก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานแล้ว (ขอโทษทีค่ะ ขอบ่นนิดนึง)

hahaha ใจเย็นๆครับ ถ้าเรากระตุ้นจูงใจกันด้วยสันติวิธีก็แล้ว เขาก็ยังหมางเมิน ไม่อยากเข้ามาในระบบ
(ซึ่งจริงๆแล้ว เขาก็เกี่ยวข้องอยู่แล้ว) ลองอาศัยพลังลมปรานจากภายนอกมาช่วยกระตุ้นอีกแรงไหมครับ
เช่น คุยกับ Auditor หรือลูกค้า ตอนที่เข้ามา Audit ก็ให้เขาช่วย Comment ให้ อาจจะให้เขาช่วยออก NC ในเรื่องดังกล่าวให้ก็ได้น่ะครับ
จะได้เสริมแรงให้เราอีกทางหนึ่งได้ด้วยครับ

[เรือน้อย]

ขอบคุณทุกท่านมากๆ ค่ะ ที่สละเวลาให้คำชี้แนะ และแบ่งปันประสบการณ์ความรู้มากมาย
อ่านเสร็จแล้ว ตอนนี้พอจะตัดสินใจได้ว่าจะทำแบบไหน อย่างไร

เรือน้อย