24 replies to this topic

[NuNing]

คือโดน assign งานมาให้ขอการรับรองให้บริษัทในเครือ ให้เสร็จภายใน 4 เดือน ต้องเสร็จสิ้น ก.ย.นี้ ใครมีคำแนะนำ วิธีทำให้รวดเร็ว แนะนำบ้างนะคะ อีกอย่างพนักงานเป็นพนักงานที่ยังไม่มีความรู้เรื่องระบบเลยค่ะ แต่พอดีหนิงทำระบบมามากมายเหมือนกัน แต่ไม่เคยโดน 4 เดือน ง่า.....

[จอมโจรจอมใจ]

คือโดน assign งานมาให้ขอการรับรองให้บริษัทในเครือ ให้เสร็จภายใน 4 เดือน ต้องเสร็จสิ้น ก.ย.นี้ ใครมีคำแนะนำ วิธีทำให้รวดเร็ว แนะนำบ้างนะคะ อีกอย่างพนักงานเป็นพนักงานที่ยังไม่มีความรู้เรื่องระบบเลยค่ะ แต่พอดีหนิงทำระบบมามากมายเหมือนกัน แต่ไม่เคยโดน 4 เดือน ง่า.....

อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะครับ
มีโจทย์มาแค่นี้ก็พอจะตระหนักถึง ความมุ่งมั่นของผู้บริหารเลยนะเนี่ย
หาก 'ท่านของท่าน' อยากได้การรับรองภายใน 4 เดือน โดยที่ทีมงานก็ยังขาดความเข้าใจ
ช่วยกระซิบผู้บริหารหน่อยนะครับว่า 'บอสค่ะ รีบไป เข้านอน เถอะค่ะ' จากนั้นอยากจะได้รับรองภายในกี่วัน กี่ชั่วโมงก็ยังได้
หรือไม่ก็ ไปหาซื้อเอาก็ได้ น่าจะพอหาซื้อได้ไม่ยากนัก

ปกติไม่เคยตอบคำถามแบบนี้เลยนะเนี่ย ขอโทษจริงๆ ครับ

[NuNing]

นั่นน่ะสิคะ เข้าใจค่ะไม่เป็นไรค่ะ แต่ตอนนี้หนักใจมากกว่าว่าจะทำอย่างไรดี ตอนนี้จะผลักดันให้อบรมด่วนทั้งบริษัทไปเลย ไม่งั้นก็มืดแปดด้านเหมือนกันค่ะ ปวดหัว ๆ
บริษัทตัวเองก็กำลังจะ upgrade version ใหม่
บริษัทในเครือก็ยังต้องทำให้เสร็จ
ตอนนี้กำลังหา consult มาช่วยค่ะ ใครพอแนะนำหรือรู้จัก consult ดี ๆ ช่วยหน่อยก็ดีนะคะ คงจะขอการรับรองของ NAC น่ะค่ะ เพราะเป็นงานประมูลในประเทศซะส่วนใหญ่

[จอมโจรจอมใจ]

วิธีที่เร็วที่สุดก็คือ เพิ่ม scope ของสาขาที่บอกว่า ต้องได้ภายใน 4 เดือนนี่ล่ะ เข้าไปใน scope ของสาขาที่ได้รับการรับรองไปแล้ว

เดือนที่ 1
1) คัดเลือก แต่งตั้ง คณะบุคคลที่จะมาทำงาน (QMR Steering committee) และไหว้วานให้ QMR ของสาขา 1 มาคุยเรื่องข้อกำหนดให้คณะทำงานฟังพอเป็นกษัย และ ประเมินความเข้าใจ
2) กำหนดความรู้ขั้นพื้นฐานสำหรับพนักงานแต่ละตำแหน่ง โดย นโยบาย KPIs procedure ฯลฯ จากสาขาที่ได้รับการรับรองมาแล้ว เป็นตัวตั้ง ดูว่าพนักงานตำแหน่งใด ต้องรู้ในเรื่องอะไรบ้าง (Training need)
3) ฝึกสอนให้กับพนักงาน และประเมินผลการเรียนรู้ เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานที่เกี่ยวข้องกับ procedure แต่ละฉบับเข้าใจ และจะปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง

ตรงส่วนนี้ ถ้าคนไม่มากนัก เดือนนึง ก็น่าจะพอทำได้

เดือนที่ 2 ก็เอา procedure ไป implement

เดือนที่ 3 internal audit (เอา Internal audit ของบริษัทในเครือที่ได้รับการรับรองแล้วมาตรวจไปก่อน จากนั้นค่อยๆ สร้างคนของตัวเองขึ้นมาทีหลัง)

เดือนที่ 4 management review ต้นเดือน และ ตรวจรับรองระบบงานปลายเดือน

คงทำได้ประมาณนี้ครับ

อ้อ...ปลุก ผู้บริหาร ให้ตื่นขึ้นมาเผชิญกับความจริงได้แล้วครับ

[panisa.k]

ต้องบอกว่า "งาน(ช้าง)เข้า" เลยอ่ะ...อิอิ

คงต้องให้ไปหนักเรื่องฝึกอบรม น่ะค่ะ แล้วก็ให้ผู้บริหารมีส่วนร่วมเยอะๆ..

จริงๆ 4 เดือน หลายที่ก็ทำได้นะคะ ถ้าเป็นองค์กรเล็กๆ ที่บุคลากรไม่เยอะค่ะ

เป็นกำลังใจ...ขอให้สำเร็จตามที่หวังนะคะ

[(( เอ ))]

เคยทำได้ค่ะ แต่ก็เกือบจองวัดเหมือนกัน
จะไม่ทำก็ไม่ได้คำสั่งผู้บริหารต้องทำงานหามรุ่งห้ามค่ำแถมหามดึกอีกต่างหาก
ทีมงานก็ไม่เป็น เราจะตายเอาให้ได้แต่ก็ต้องทำ
เอจับเขาคุยเขียนระเบียบปฏิบัติของแต่ละส่วนออกมาให้ได้ไวที่สุด เพื่อที่จะได้มีเวลาตรวจสอบว่าเอกสารผิดพลาดจุดไหนบ้าง
ยอมรับค่ะว่าเหนื่อยมากๆ ผักชีก็มากเหมือนกัน แต่ก็มีการตกลงกับฝ่ายบริหารให้เปิดไฟเขียวทุกรายการใน 4 เดือนนี้
จากนั้นก็ตามเก็บตามกวาดที่ตกหล่นอีกทีหลังการตรวจประเมินและต้องทำงานหนักต่อเนื่อง
เพื่อไม่ให้เขาลืมและปรับตัวให้มาเข้ากับระบบ

ยังไงเอาใจช่วยนะคะ สู้ ๆๆๆๆ

[นุกูล]

คือโดน assign งานมาให้ขอการรับรองให้บริษัทในเครือ ให้เสร็จภายใน 4 เดือน ต้องเสร็จสิ้น ก.ย.นี้ ใครมีคำแนะนำ วิธีทำให้รวดเร็ว แนะนำบ้างนะคะ อีกอย่างพนักงานเป็นพนักงานที่ยังไม่มีความรู้เรื่องระบบเลยค่ะ แต่พอดีหนิงทำระบบมามากมายเหมือนกัน แต่ไม่เคยโดน 4 เดือน ง่า.....

555 ดูท่าทางเหมือนจะลำบากใจน่ะครับ ทำใจเย็นๆไว้ก่อนครับ
ผมเคยช่วยลูกค้าทำระบบ ISO โดยใช้เวลา 3 เดือนกว่าๆเอง ที่เขารีบเพราะว่าต้องเข้าประมูลโครงการของภาครัฐ ที่บังคับว่าต้องได้ ISO และต้องรับรองโดย AB จาก NAC เหมือนกัน
ก็ผ่านมาด้วยดีครับ เพียงแต่ว่า เราจะต้องวางแผนกันดีๆหน่อย ว่าจะต้องทำอะไรกันบ้าง
- ฝึกอบรม ทำเอกสาร และประยุกต์ใช้ อันนี้เสร็จภายใน 1 เดือน
- ประยุกต์ใช้ เก็บบันทึก เก็บข้อมูล KPI อีก 1 เดือนกว่าๆ
- Internal Audit แก้ไข CAR-PAR และ Management Review เสร็จแล้วก็ส่งเข้าประกวด
สู้ๆครับ ขอให้โชคดีน่ะ

[NuNing]

นั่นเลยค่ะ อาจจะต้องขอไฟเขียวทุกรายการเหมือนที่คุณ Anongporn ว่าไว้ แต่หนิงแหล่ะค่ะที่เป็น QMR ของบริษัทแรก เลยค่อนข้างหนักใจ แล้วก็เป็นอย่างที่ อ.นุกูล ว่าไว้ค่ะ คือจะประมูลงานค่ะ เลยต้องรีบให้ได้ เพราะจะยื่นเอกสาร proposal ต้นเดือน ต.ค.

ขอบคุณทุกคนนะคะ ที่เป็นกำลังใจให้ คุณจอมโจรจอมใจ ด้วยนะคะ ตอบเคลียร์ดีค่ะ เป็น Step ดีค่ะ ถ้าหนิงเอาทีม Audit ของอีกบริษัทในเครือมา นี่ถือเป็น outsource ด้วยหรือเปล่าคะเนี่ย ตามข้อกำหนดใหม่น่ะค่ะ

[จอมโจรจอมใจ]

นั่นเลยค่ะ อาจจะต้องขอไฟเขียวทุกรายการเหมือนที่คุณ Anongporn ว่าไว้ แต่หนิงแหล่ะค่ะที่เป็น QMR ของบริษัทแรก เลยค่อนข้างหนักใจ แล้วก็เป็นอย่างที่ อ.นุกูล ว่าไว้ค่ะ คือจะประมูลงานค่ะ เลยต้องรีบให้ได้ เพราะจะยื่นเอกสาร proposal ต้นเดือน ต.ค.

ขอบคุณทุกคนนะคะ ที่เป็นกำลังใจให้ คุณจอมโจรจอมใจ ด้วยนะคะ ตอบเคลียร์ดีค่ะ เป็น Step ดีค่ะ ถ้าหนิงเอาทีม Audit ของอีกบริษัทในเครือมา นี่ถือเป็น outsource ด้วยหรือเปล่าคะเนี่ย ตามข้อกำหนดใหม่น่ะค่ะ

ขอให้ auditor จากสาขาหนึ่ง ไปตรวจอีกสาขาหนึ่ง ไม่เกี่ยวกับโรคฟันผุ เอ๊ย ไม่เกี่ยวกับเอ้าท์ซ่งเอ้าท์ซอส แล้วล่ะครับ ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับ outsource ในเว็บดูนะครับ มีเกลื่อนกราดเลยล่ะ

บริษัทของจอมโจรฯ ก็มีหลายสาขา แต่เมื่อ top management ก็ใช้ร่วมกัน เพื่อความเป็นอิสระ และก็ได้แลกเปลี่ยน เทคโนโลยีระหว่างกัน อย่ากระนั้นเลย ก็ใช้วิธีนี้นี่ล่ะครับ เอา auditor ของสาขานี้ไปตรวจสาขานั้น นอกจากจะไม่จำเจ ได้งาน และยังรู้จักกันมากขึ้นด้วยครับ

ขอให้โชกเลือด เอ๊ยยย โชคดีนะครับ

[NuNing]

ขอให้ auditor จากสาขาหนึ่ง ไปตรวจอีกสาขาหนึ่ง ไม่เกี่ยวกับโรคฟันผุ เอ๊ย ไม่เกี่ยวกับเอ้าท์ซ่งเอ้าท์ซอส แล้วล่ะครับ ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับ outsource ในเว็บดูนะครับ มีเกลื่อนกราดเลยล่ะ

บริษัทของจอมโจรฯ ก็มีหลายสาขา แต่เมื่อ top management ก็ใช้ร่วมกัน เพื่อความเป็นอิสระ และก็ได้แลกเปลี่ยน เทคโนโลยีระหว่างกัน อย่ากระนั้นเลย ก็ใช้วิธีนี้นี่ล่ะครับ เอา auditor ของสาขานี้ไปตรวจสาขานั้น นอกจากจะไม่จำเจ ได้งาน และยังรู้จักกันมากขึ้นด้วยครับ

ขอให้โชกเลือด เอ๊ยยย โชคดีนะครับ

คือเป็นบริษัทในเครือ (คนละชื่อบริษัท) แต่ไม่ใช่สาขาน่ะค่ะ ผู้บริหารเป็นคนละท่านกัน BOD เค้าจ้าง MD จากข้างนอกมาบริหารแทนตัวเองค่ะ อย่างนี้จะสามารถใช้ร่วมกันได้หรือไม่ค่ะ เพราะยังไม่เคยทำ ISO ให้กลุ่มบริษัทเหมือนกันค่ะ

[จอมโจรจอมใจ]

หากมี 'คนละหัว' มันคงยากที่จะทำอย่างที่ แสดงความเห็นไปก่อนนี้แล้วล่ะครับ
แต่คงจะไม่ได้เริ่มจาก 'ศูนย์" ซะทีเดียว เอกสารระเบียบปฏิบัติบางส่วนอาจจะ
ขอเอามาใช้เป็นแนวทางได้ เพียงแต่ว่า คณะทำงานในสาขาของคุณจะยอมรับ กฎเกณฑ์ของอีกสาขานึงได้มั้ย
เพราะขนาดบริษัทเดียวกัน แต่ถ้าจะให้ไปใช้แผนกอื่นด้วยเนี่ย ยังไม่ยอมรับกันเท่าไหร่
ดังนั้น คงต้องมา review กันก่อน

ต่อจากนี้ก็เข้า rule ของคุณนุกูลแล้วล่ะครับ

[webmaster]

4 เดือน จริงๆ เวลามันเหมือนน้อยไปนิด แต่ก็ทำได้ครับ เหมือนมะม่วงบ่มแก้ส ยังไงมันก็ออกมาเป็นมะม่วงสุกเหมือนกัน หร่อยไม่หร่อยว่ากันอีกเรื่อง

บอกไว้ เผื่อจะมีกำลังใจมากขึ้น ทุกวันนี้มีมะม่วงบ่มแก้สแบบนี้เยอะครับ เดือนเดียวเสร็จก็มีถมเถ.. ไฟต์บังคับครับ

บริษัทในเครือทำธุรกิจเดียวกันไหม.. ถ้าใช่ หรือใกล้เคียง Transfer เอกสารมาให้หมดเลย ทั้ง Manual, Procedure, WI, Forms, ผังองค์กร, JD, KPI, นโยบายด้วยก็ได้ ถ้าผู้บริหารจะเอางั้น.. (ไม่ได้ประชดนะจ๊ะ )

ถึงไม่ใช่ธุรกิจเดียวกัน ก็ปรับแต่งได้ครับ อย่าง WI อาจต้องปรับแต่งเยอะ

อ้อ..เอามาเท่าที่จำเป็นก่อนนะครับ บา่งทีมันจุกจิก เยอะเกินก็ไม่ต้องเอามา.. ต้องพอมีความเข้าใจตรงนี้ครับ ว่าเอกสารใดจำเป็น ไม่จำเป็น โพสถามที่นี่ก็ได้ครับ

คุณ NuNing คงงานเยอะหน่อยครับ ขอเวลาผู้บริหารมาลุยตรงนี้เต็มตัวเลยครับ ทำใจไว้เลยว่า งานจะมากองที่เราเยอะ อย่าหวังพึ่งทีมงานมากเลยครับ ถ้าเขาช่วยเราเต็มที่ อันนี้ถือว่าถูกหวยครับ ลองไปดูที่เขาตั้งกระทู้บ่นๆ กันก็ได้ ขอให้ทำงานรูทีน ลงบันทึกของตัวเองอย่าให้ขาดก็แล้วกัน

KPI ของแต่ละแผนก ก่อน Internal Audit ก็ขอให้มีวัดผลสักเดือนครับ ไม่ใช่ไม่มีวัดผลเลย

Implement สองเดือนก็พอ มีบันทึกอะไรให้ครบ สำรวจความพึงพอใจของลูกค้า 1 ครั้ง ประเมินผู้ขายซัก 1 ครั้ง

Training ก็อาจเอาเฉพาะ Train ตาม Procedure & WI ของแผนกตัวเอง, ข้อกำหนด หรือ Overview ISO9001, Internal Audit เแพาะคนที่เป็นออดิเตอร์ เอาแค่นี้ก่อนครับ อย่าลืม Records & Evaluation ด้วย

เดือนที่สาม Internal Audit & Management Review อย่างละ 1 ครั้ง

Audit ให้บริษัทในเครือมาตรวจให้ก็ได้ครับ อย่างที่คุณจอมโจรแนะนำให้

พยายามเสนอให้ผู้บริหาร ขอให้มี Pre Audit ให้ได้ เพราะจะได้นำ Finding มาแก้ไขก่อนกันเหนียว

Main Audit จำไว้เลยว่า กี่ Minor ก็ชั่งมัน ขออย่ามี Major พอ

บ่มแก้สครับ.. แต่สุกแน่

[นุกูล]

บ่มแก้สครับ.. แต่สุกแน่
[/quote]

"บ่มแก๊ส" ชอบคำนี้มากเลยครับอาจารย์ อ่านแล้วเห็นภาพเลยครับ

[NuNing]

ขอบคุณทุก ๆ ความเห็น และกำลังใจนะคะ จะสู้ ๆ ค่ะ

[Autoboy]

มองโลกในแง่ดี จริงๆ 4 เดือนก็ยังทันนะครับ สำคัญที่ทีมงานช่วยผลัก และดันแค่ไหน...สู้ๆ ครับ
ถ้าหา Consult ทำในระยะเวลาจำกัดขนาดนี้ ผมว่าค่าตัวแพง....
แนะนำใช้คนกันเองในนี้ดีกว่าครับ หมายถึงมีอะไรก็ตั้งกระทู้ถามอ่ะนะ ไม่เสียตังค์ด้วย

[teeo]

ตามพี่ๆ ข้างบนนั่นแหละ เอาใจช่วยครับ
ยังไงน่าจะทันอยู่ครับ แต่อำนาจก็ต้องเต็มที่ด้วยเช่นกัน

[ton-n]

4 เดือนเรื่องเล็กครับ..
เมล์มาคุยที่ได้ visut@bgiglass.com
ความสำเร็จอยู่แค่..เอื้อมครับ..
ton

[Mr.Ahero]

ผมเคยใช้ระยะเวลา สั้นที่สุด 2 เดือนครับ สำหรับ ISO9001:2000 ขนาดองกรณ์ประมาณ 60-80 คนครับ
สิ่งแรกที่ควรจะเริ่มจัดทำก่อน คือ
Phase 1 จัดทำระบบบริหารคุณภาพ (เอกสารนั้นแหละครับ)
ได้แก่ Quality Manual, Mainly Procedure 6 ฉบับ หรือมากกว่านั้น ตามความจำเป็น (คำแนะนำ เอกสารต่างๆ โดยเฉพาะ Procedure ไม่ควรเขียนจนมัดตนเองเกินไป กรณีนี้มีเวลาน้อยครับ ใช้เทคนิคเขียนเป็น Folw Chart และ เน้นการออกแบบรายละเอียดความครบถ้วนของบันทึก ที่แบบฟอร์มจะดีกว่า นะครับ กล่าวคือในขั้นตอนใน Flow chart ต้องให้แบบฟอร์มอะไร เป็นต้น)
สำหรับ Q-Manual ถ้าเป็นการยุ่งยากที่จะเขียนเป็น แบบ Process Approach ก็ใช้ แบบ ล้อตามข้อกำหนดก็ได้นะครับ พิมพ์นิยมดี)
Phase 2 นำไปปฏิบัติ (พูดง่ายๆ ต้องจัดทำบันทึกภาคบังคับให้ ครบนะครับ)
ตามข้อกำหนดต่างๆ ครับ ในข้อ 5.6, 6.2.2, 7.1, 7.2.2, 7.3.2, 7.3.4, 7.3.5, 7.3.6, 7.3.7, 7.4.1, 7.5.2, 7.5.3, 7.5.4, 7.6, 8.2.1,8.2.2, 8.2.4, 8.3, 8.5.2, 8.5.3 (ถ้ายกเว้น 7.3 ได้สำหรับการออกแบบผลิตภัณฑ์ ก็ไม่ต้องนะครับ แต่สำหรับงานบริหารเพียวๆ ละเว้นไม่ได้นะครับ การออกแบบงานบริการนะครับ)
เมื่อนำระบบไปปฏิบัติแล้ว สัก 1-2-3 เดือน ฏ้ดำเนินการทำ Internal audit แล้วก็ Management Review ต้องเก็บบันทึกนะครับ (see 8.2.2, 5.6 บันทึกภาคบังคับ)
จากนั้นก็เชิญ CB มาตรวจได้เลย ครับ
นี่คือการสรุป แบบคร่าวนะครับๆ (ได้ Cer แน่นอน ส่วนประสิทธิผล ค่อยๆปรับปรุงไปนะครับ ในภายหลัง เนื่องจากเวลาน้อย)
จาก boonchanasak.inspire@gmail.com มีอะไร ติดต่อได้นะครับ ยินดี Share ประสบการณ์ครับ

[NuNing]

ผมเคยใช้ระยะเวลา สั้นที่สุด 2 เดือนครับ สำหรับ ISO9001:2000 ขนาดองกรณ์ประมาณ 60-80 คนครับ
สิ่งแรกที่ควรจะเริ่มจัดทำก่อน คือ
Phase 1 จัดทำระบบบริหารคุณภาพ (เอกสารนั้นแหละครับ)
ได้แก่ Quality Manual, Mainly Procedure 6 ฉบับ หรือมากกว่านั้น ตามความจำเป็น (คำแนะนำ เอกสารต่างๆ โดยเฉพาะ Procedure ไม่ควรเขียนจนมัดตนเองเกินไป กรณีนี้มีเวลาน้อยครับ ใช้เทคนิคเขียนเป็น Folw Chart และ เน้นการออกแบบรายละเอียดความครบถ้วนของบันทึก ที่แบบฟอร์มจะดีกว่า นะครับ กล่าวคือในขั้นตอนใน Flow chart ต้องให้แบบฟอร์มอะไร เป็นต้น)
สำหรับ Q-Manual ถ้าเป็นการยุ่งยากที่จะเขียนเป็น แบบ Process Approach ก็ใช้ แบบ ล้อตามข้อกำหนดก็ได้นะครับ พิมพ์นิยมดี)
Phase 2 นำไปปฏิบัติ (พูดง่ายๆ ต้องจัดทำบันทึกภาคบังคับให้ ครบนะครับ)
ตามข้อกำหนดต่างๆ ครับ ในข้อ 5.6, 6.2.2, 7.1, 7.2.2, 7.3.2, 7.3.4, 7.3.5, 7.3.6, 7.3.7, 7.4.1, 7.5.2, 7.5.3, 7.5.4, 7.6, 8.2.1,8.2.2, 8.2.4, 8.3, 8.5.2, 8.5.3 (ถ้ายกเว้น 7.3 ได้สำหรับการออกแบบผลิตภัณฑ์ ก็ไม่ต้องนะครับ แต่สำหรับงานบริหารเพียวๆ ละเว้นไม่ได้นะครับ การออกแบบงานบริการนะครับ)
เมื่อนำระบบไปปฏิบัติแล้ว สัก 1-2-3 เดือน ฏ้ดำเนินการทำ Internal audit แล้วก็ Management Review ต้องเก็บบันทึกนะครับ (see 8.2.2, 5.6 บันทึกภาคบังคับ)
จากนั้นก็เชิญ CB มาตรวจได้เลย ครับ
นี่คือการสรุป แบบคร่าวนะครับๆ (ได้ Cer แน่นอน ส่วนประสิทธิผล ค่อยๆปรับปรุงไปนะครับ ในภายหลัง เนื่องจากเวลาน้อย)
จาก boonchanasak.inspire@gmail.com มีอะไร ติดต่อได้นะครับ ยินดี Share ประสบการณ์ครับ

ขอบคุณมากค่ะ ที่ช่วย share ประสบการณ์ มีประโยชน์มากค่ะ อ่านแล้วเข้าใจดี แต่ของบริษัทตัวเอง กำลังจะ up version ยังไม่ได้ทำไรเลยค่ะ กลุ้มเพราะทำไม่ทันค่ะ แต่สู้ ๆ อยู่แล้ว

[Mr.Ahero]

ขอบคุณมากค่ะ ที่ช่วย share ประสบการณ์ มีประโยชน์มากค่ะ อ่านแล้วเข้าใจดี แต่ของบริษัทตัวเอง กำลังจะ up version ยังไม่ได้ทำไรเลยค่ะ กลุ้มเพราะทำไม่ทันค่ะ แต่สู้ ๆ อยู่แล้ว

เดี๋ยวพรุ่งนี้ ผมจะตอบการจัดทำ Version 2008 ให้ต่อนะครับ ไม่มีประเด็นอะไร เพิ่มเติมมากครับ วันนี้ บาย (ปล. เคยทำอาชีพ Consultant สำหรับ ISO9001--ISO/TS16949 มา 3 ปี แล้วครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ)