Jump to content


ท่านที่สมัครสมาชิกเข้ามาใหม่ กรุณารอให้ Admin ได้ทำการ Validate การเป็นสมาชิก ภายใน 24 ชม.ของวันทำการ ซึ่งระหว่างที่รอ Validation ท่านอาจจะยังไม่สามารถดาวน์โหลดข้อมูลต่างๆ ได้ หากไม่ได้รับความสะดวก กรุณาอีเมลแจ้ง isothainetwork@hotmail.com

Photo

รบกวนสอบถาม/ขอข้อมูลเรื่องการออกแบบ หัวข้อ 7.3


  • Please log in to reply
18 replies to this topic

#1 กฤษณา

กฤษณา

    Super Member

  • Members
  • PipPip
  • 34 posts

Posted 27 May 2013 - 10:27 AM

รบกวนพี่ๆสมาชิก ISOTHAI เนื่องจากบริษัทเป็นบริษัทเกี่ยวกับอาหาร ข้อกำหนดบังคับให้ต้องมีการออกแบบ ในข้อ 7.3 และต้องเป็นคนทำ QP ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อน อันนี้ไม่รู้ว่าเข้าใจถูกหรือเปล่า

 

1.สมมุติว่าบริษัทที่ทำเกี่ยวกับตู้ ถ้าบริษัทได้รับคำสั่งซื้อ ก็จะให้ฝ่าย Design เป็นผู้ออกแบบว่าต้อง ใช้ไม้อะไร กว้าง ยาว สูง เท่าไหร่ ฯลฯ เพื่อที่จะผลิตออกมาให้ได้ตู้ 1 ใบตามที่ลูกค้าสั่งซื้อ อันนี้คือตามความเข้าใจของตาลว่าการออกแบบคือการรับคำสั่งจากลูกค้าแล้วนำมาปฏิบัติตาม

 

 

2.แล้วถ้าบริษัทของตาลเป็นการผลิตอาหารสัตว์ มี 2 สูตร ซึ่งทางบริษัทเป็นผู้กำหนดเองว่าจะมีส่วนผสมในแต่ละสูตรอะไรบ้าง แบบนี้ถือว่าเป็นการออกแบบหรือไม่คะ

 

 

 

แล้วถ้าจะต้องจัดทำ QP ข้อมูลใน QP ข้อ 1 และ 2 กระบวนการจะต่างกันมั๊ยค่ะ

 

กระบวนการของการผลิตตามตัวอย่างไม่แน่ใจว่าต้องแก้ไข/เพิ่มเติมตรงไหนอีกหรือเปล่า รบกวนทุกคนช่วย Comment ด้วยค่ะ

 

Attached Files



#2 iso_man

iso_man

    Super Hornor Member

  • Super Power Members
  • PipPipPipPipPipPip
  • 5,132 posts
  • Gender:Male

Posted 27 May 2013 - 10:52 AM

รบกวนพี่ๆสมาชิก ISOTHAI เนื่องจากบริษัทเป็นบริษัทเกี่ยวกับอาหาร ข้อกำหนดบังคับให้ต้องมีการออกแบบ ในข้อ 7.3 และต้องเป็นคนทำ QP ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อน อันนี้ไม่รู้ว่าเข้าใจถูกหรือเปล่า

 

1.สมมุติว่าบริษัทที่ทำเกี่ยวกับตู้ ถ้าบริษัทได้รับคำสั่งซื้อ ก็จะให้ฝ่าย Design เป็นผู้ออกแบบว่าต้อง ใช้ไม้อะไร กว้าง ยาว สูง เท่าไหร่ ฯลฯ เพื่อที่จะผลิตออกมาให้ได้ตู้ 1 ใบตามที่ลูกค้าสั่งซื้อ อันนี้คือตามความเข้าใจของตาลว่าการออกแบบคือการรับคำสั่งจากลูกค้าแล้วนำมาปฏิบัติตาม

 

 

2.แล้วถ้าบริษัทของตาลเป็นการผลิตอาหารสัตว์ มี 2 สูตร ซึ่งทางบริษัทเป็นผู้กำหนดเองว่าจะมีส่วนผสมในแต่ละสูตรอะไรบ้าง แบบนี้ถือว่าเป็นการออกแบบหรือไม่คะ

 

 

 

แล้วถ้าจะต้องจัดทำ QP ข้อมูลใน QP ข้อ 1 และ 2 กระบวนการจะต่างกันมั๊ยค่ะ

 

กระบวนการของการผลิตตามตัวอย่างไม่แน่ใจว่าต้องแก้ไข/เพิ่มเติมตรงไหนอีกหรือเปล่า รบกวนทุกคนช่วย Comment ด้วยค่ะ

ตอบของน้องตาลตรงๆเลยจะง่ายกว่าครับในส่วนของน้องตาลถือว่าคือการออกแบบสูตรอาหารกุ้งเองครับ คราวนี้มาดูขั้นตอนการออกแบบตามตัวอย่างที่ใ้ห้มา

1. การวางแผนการออกแบบ ข้อมูลที่สำคัญคือ สมรรถนะของอาหารสัตว์ที่เราต้องการผลิต ที่กำหนดมาก็ถือว่าใช้ได้แต่นั่นแค่สูตรของ OutPut ที่ต้องการบางตัว ยังมีอย่างอื่นๆอีกซึ่งสามารถเอามาได้จาก Spec ของอาหารและคุณสมบัติที่ต้องการขายเช่น การไม่ก่อให้เกิดน้ำเสีย การให้ค่าการบำรุงสัตว์อย่างไร อันนี้คืออปัจจัยนำเข้าในการออกแบบ พูดง่ายๆคือ Spec ที่คุณจะโฆษณาขายแหระ

2. ในขั้นตอนการออกแบบก็จะประกอบไปด้วย ปัจจัยนำเข้าในการออกแบบที่บอกไปในข้อแรก ต่อไปคือขั้นตอนการทวบทวนและทวนสอบที่ต้องกำหนดซึ่งไผอยู่ในขั้นตอนการออกแบบได้ แต่ต้องกำหนดให้ชัดเจนหน่อยว่าในขั้นตอนการผลิตอาหารมีอะไรบ้างแล้วเราจะไปทบทวนตอนไหนเช่นเมื่อได้สูตรที่ผสมมาแล้วก็นำมาทบทวนว่า สูตรที่เราผลิตมาแล้วจะหาซื้อได้ที่ไหน production ต้อง Design Process อะไรเพิ่มไหม หัวข้อที่ QA ตรวจสอบมีอะไรบ้าง Packaging ที่ต้องการ รวมถึงสรรพคุณของอาหารซึ่งแน่นอนการทบทวนควรมาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในกระบวนการก่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ คราวนี้ให้เจ้าคำว่าทวนสอบก็คือดูว่าเป็นไปตามขั้นตอนที่วางแผนไว้หรือไม่ มีการเปลี่ยนแปลง Due หรือ เวลา หรือ ขั้นตอนแล้วมีการ Update หรือไม่

3. เมื่อได้ตัวอย่างผลิตภัณฑ์มาก็จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ หรือที่เรียกว่า Verification ละครับ ซึ่งตรวจสอบตามสรรถนะที่บอกไว้ตอนแรกว่าเป็นไปตามที่กำหนดจริง จากนั้นเพื่อตรวจสอบแล้วได้ spec ที่ต้องการ อาจจะ Pilot Run ซะ 1 ตัน เพื่อ Verify กระบวนการผลิตจริง และอาจจะเก็บไว้เป็นตัวอย่างทดลองให้กับลูกค้า

4. เมื่อได้ข้อมูลตามขั้นตอนครบก็รวบรวมแล้วก็อนุมัติการผลิตและสูตรดังกล่าวเพื่อจำหน่ายได้เลยครับ

อ้อเกือบลืมในการออกแบบให้มองไปถึง Packaging และข้อมูลการถนอมดูแลจัดเก็บผลิตภัณฑ์ดังกล่าวด้วยนะครับ หากมีเรื่องข้อมูลความปลอดภัยเช่นการแพ้ก็ควรระบุใส่ไปด้วยในการออกแบบ

สงสัยอย่างไรเพิ่มเติมมาหลังไมค์เลยครับ


การมีความรู้ มาจากการเรียนรู้ และปฏิบัติ หากเรียนอย่างเดียวไม่ปฏิบัีติก็เรียกว่ารุ้ไม่จริง
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ chatriwat@hotmail.com
Facebook: poppithai
Tel:089-6834451

#3 กฤษณา

กฤษณา

    Super Member

  • Members
  • PipPip
  • 34 posts

Posted 27 May 2013 - 11:01 AM

ขอบคุณ อ.ป๊อบค่ะ ถ้าสงสัยตรงไหนอย่างไร ตาลจะสอบถาไปเพิ่มค่ะ  :lol2:



#4 Food Safety

Food Safety

    จอมยุทธย่อมมีบาดแผล

  • Super Power Members
  • PipPipPipPipPipPip
  • 6,561 posts
  • Gender:Male

Posted 27 May 2013 - 12:10 PM

ชัดเจนที่สุดเลยครับพี่ป๊อป โดยเฉพาะคำตอบข้อที่ 4 เรื่อง Allergen

#5 DooK

DooK

    Super Hornor Member

  • Super Power Members
  • PipPipPipPipPipPip
  • 1,511 posts
  • Gender:Male
  • Location:บางแสน

Posted 27 May 2013 - 01:09 PM

การจะดูว่าเรามีความรับผิดชอบในการออกแบบหรือไม่นั้น ดูได้ง่ายๆ ครับ คือ องค์กรสามารถที่จะกำหนด หรือ ปรับเปลี่ยน สเปคหรือมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ได้เอง โดยที่ไม่ต้องไปร้องขอทางลูกค้าหรือไม่ครับ

 

ถ้าคำตอบคือใช่ ก็รับผิดชอบงานออกแบบแน่นอนครับ

 

ส่วนตัว Procedure นั้นผมว่าลองดูตาม comment จาก อ. ISOMan นะครับ แต่ผมเพิ่มให้นิดหน่อยคือ

 

1. Design Review --> ตามข้อ 7.3.4 เป็นการทบทวนความคืบหน้าของโครงการออกแบบ ว่ามีความคืบหน้าเพียงใด มีปัญหาติดขัดอะไรหรือไม่

2. Design verification --> ตามข้อ 7.3.5 เป็นการทวนสอบการออกแบบ ว่าผลลัพธ์ที่ได้ออกมา (design output) เป็นไปตามสิ่งที่องค์กรต้องการ (design input) หรือไม่ ในที่นี้ องค์กรออกแบบอาหารสัตว์ Input คือ

  • ส่วนผสม
  • เป้าหมายการผลิต เช่น ไม่ควรเสียเกินเท่าไหร่
  • อื่นๆ อีกมากมาย

3. Design validation 7.3.6 คือการทดสอบนำไปใช้จริง ว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่ กรณีนี้อาจจะกำหนดว่าอาหารสัตว์สูตรนี้ จะทำให้สัตว์เติบโตน้ำหนักเพิ่มขึ้น 1 ขีดภายในสามวัน ก็ต้องไปทดลองกันดูครับ

 

4. Design Change เรื่องนี้ยังขาดหายไปจาก flow นะครับ ลองไปอ่านข้อกำหนดและเพิ่มเติมดู แต่สิ่งที่ต้องการจากข้อกำหนดนี้คือ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในการออกแบบ องค์กรจะควบคุมอย่างไร

 

:) :) ประมาณนี้แล :) :)


ลายเซ็น

#6 iso_man

iso_man

    Super Hornor Member

  • Super Power Members
  • PipPipPipPipPipPip
  • 5,132 posts
  • Gender:Male

Posted 27 May 2013 - 01:13 PM

การจะดูว่าเรามีความรับผิดชอบในการออกแบบหรือไม่นั้น ดูได้ง่ายๆ ครับ คือ องค์กรสามารถที่จะกำหนด หรือ ปรับเปลี่ยน สเปคหรือมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ได้เอง โดยที่ไม่ต้องไปร้องขอทางลูกค้าหรือไม่ครับ

 

ถ้าคำตอบคือใช่ ก็รับผิดชอบงานออกแบบแน่นอนครับ

 

ส่วนตัว Procedure นั้นผมว่าลองดูตาม comment จาก อ. ISOMan นะครับ แต่ผมเพิ่มให้นิดหน่อยคือ

 

1. Design Review --> ตามข้อ 7.3.4 เป็นการทบทวนความคืบหน้าของโครงการออกแบบ ว่ามีความคืบหน้าเพียงใด มีปัญหาติดขัดอะไรหรือไม่

2. Design verification --> ตามข้อ 7.3.5 เป็นการทวนสอบการออกแบบ ว่าผลลัพธ์ที่ได้ออกมา (design output) เป็นไปตามสิ่งที่องค์กรต้องการ (design input) หรือไม่ ในที่นี้ องค์กรออกแบบอาหารสัตว์ Input คือ

  • ส่วนผสม
  • เป้าหมายการผลิต เช่น ไม่ควรเสียเกินเท่าไหร่
  • อื่นๆ อีกมากมาย

3. Design validation 7.3.6 คือการทดสอบนำไปใช้จริง ว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่ กรณีนี้อาจจะกำหนดว่าอาหารสัตว์สูตรนี้ จะทำให้สัตว์เติบโตน้ำหนักเพิ่มขึ้น 1 ขีดภายในสามวัน ก็ต้องไปทดลองกันดูครับ

 

4. Design Change เรื่องนี้ยังขาดหายไปจาก flow นะครับ ลองไปอ่านข้อกำหนดและเพิ่มเติมดู แต่สิ่งที่ต้องการจากข้อกำหนดนี้คือ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในการออกแบบ องค์กรจะควบคุมอย่างไร

 

:) :) ประมาณนี้แล :) :)

ดีใจจังจานดุกมาแชร์เพิ่มลืมไปเลยเรื่อง change design แจ่มๆๆน้องได้ความรู้มากมาย


การมีความรู้ มาจากการเรียนรู้ และปฏิบัติ หากเรียนอย่างเดียวไม่ปฏิบัีติก็เรียกว่ารุ้ไม่จริง
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ chatriwat@hotmail.com
Facebook: poppithai
Tel:089-6834451

#7 Food Safety

Food Safety

    จอมยุทธย่อมมีบาดแผล

  • Super Power Members
  • PipPipPipPipPipPip
  • 6,561 posts
  • Gender:Male

Posted 27 May 2013 - 01:23 PM

แจ่มทั้งคู่ครับ

ขอบคุณ

#8 กฤษณา

กฤษณา

    Super Member

  • Members
  • PipPip
  • 34 posts

Posted 27 May 2013 - 04:22 PM

สอบถามเพิ่มเติมค่ะ 

 

ถ้าสิ่งเหล่านี้คือ Input

1.ส่วนผสม                         >>>>>>>

2.อัตราการผลิต 2.5 ตัน/ชม. >>>>>>>   INPUT

3.คุณค่าทางอาหารที่กำหนด >>>>>>>

 

ถ้าเราระบุ Input เป็นส่วนผสม เราต้องเขียนลงไปใน QP ด้วยหรือไม่ว่าส่วนผสมประกอบไปด้วยอะไรบ้าง และ/หรือวิธีคำนวณปริมาณการใช้ และ/หรือใช้ในปริมาณเท่าไหร่

เราต้องระบุรายละเอียดพวกนี้ลงไปใน QP เล่มนี้หรือไม่คะ

 

เช่น ถ้าเกณฑ์กำหนดว่าโปรตีน > 30, ไขมัน >10, เถ้า <5 เราก็ต้องมาดูคุณค่าของส่วนผสมแต่ละตัวที่ใช้ว่ามีคุณค่าเท่าไหร่ เพื่อนำไปคำนวณปริมาณส่วนผสมในสูตรให้ได้คุณค่าตามที่กำหนด ใช่หรือไม่

ตัวอย่าง เมื่อเราคำนวณแล้วพบว่า ส่วนผสม 1  ใช้ 500 Kg, สว่นผสม 2 ใช้ 250 Kg, ส่วนผสม 3 ใช้ 20 Kg,ส่วนผสม 4, 5, 6  ใช้.........Kg ถ้าเราต้องระบุ เราจะเอาไปเขียนไว้ในส่วนไหนคะ

 

 

หรือเราแค่จะไปคำนวณในโปรแกรมที่เรามี แล้วไม่ต้องอธิบายรายละเอียดลงไป แต่มีเอกสารที่เก็บไว้อ้างอิง

 

ไม่รู้จะเข้าใจสิ่งที่ตาลกำลังพูดหรือไม่ บางทีก็งงกะตัวเองเหมือนกัน ตอนอ่านข้อกำหนดก็พอเข้าใจ พอจะทำเป็น QP งงเลยค่ะ ไม่รู้ว่าต้องใส่รายละเอียดไปมากน้อยแค่ไหน



#9 DooK

DooK

    Super Hornor Member

  • Super Power Members
  • PipPipPipPipPipPip
  • 1,511 posts
  • Gender:Male
  • Location:บางแสน

Posted 27 May 2013 - 04:40 PM

ใน Procedure ควรระบุแค่ขั้นตอนกว้างๆ ครับ ว่าต้องทำอย่างไร ต้องลงบันทึกในฟอร์มตัวไหน แต่การบอกว่า input คืออะไรบ้าง ให้ไประบุไว้ใน ฟอร์ม แทนครับ เผื่อจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต


ลายเซ็น

#10 กฤษณา

กฤษณา

    Super Member

  • Members
  • PipPip
  • 34 posts

Posted 27 May 2013 - 04:54 PM

ขอบคุณค่ะ ถ้า K.Dook พอจะมีแนวทาง หรือตัวอย่างจักขอบพระคุณมากค่ะ จะลองดูเป็นแนวทางค่ะ  :smiley-angry017:

 

Kitsana_c@sop.co.th 

 

 

แต่ถ้าไม่มีไม่เป็นไรค่ะ 



#11 กฤษณา

กฤษณา

    Super Member

  • Members
  • PipPip
  • 34 posts

Posted 28 May 2013 - 10:14 AM

สอบถามค่ะ แล้ว Input เมื่อเรากำหนดมาได้แล้ว เราจะต้องบันทึกพวก Input เหล่านี้ในแบบฟอร์มเก็บไว้หรือเปล่าค่ะ แล้วถ้าบันทึกควรบันทึกแนวไหวคะ

 

 

 

ขอบคุณค่ะ



#12 Food Safety

Food Safety

    จอมยุทธย่อมมีบาดแผล

  • Super Power Members
  • PipPipPipPipPipPip
  • 6,561 posts
  • Gender:Male

Posted 28 May 2013 - 10:20 AM

ตามความเห็นผม จะเก็บไว้ในบันทึกก็ได้ หรือจะเก็บข้อมูลที่สำคัญนี้ไว้ใน Formula sheet or Process Specification

หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่เราจะเรียกและอ้างอิงได้ เพราะนี่คือข้อมูลสำคัญ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เมื่อ Validation ผ่านแล้ว ก็ต้องเก็บรักษาไว้ให้ดี

เพราะจะใช้เป็นมาตรฐานในการอ้างอิงการผลิตแบบ commercial ต่อไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

#13 กฤษณา

กฤษณา

    Super Member

  • Members
  • PipPip
  • 34 posts

Posted 28 May 2013 - 10:31 AM

แล้วอย่างถ้า Input คือ ปริมาณของเสียในการผลิตไม่ควรเกิน 2 % ข้อมูลนี้เราควรเขียนลงใปในบันทึกรูปแบบไหนคะ

 

หมายถึงสามารถเขียนลงไปในบันทึกได้เลยว่าการออกแบบผลิตภัณฑ์ a1 ปริมาณของเสียในการผลิตต้องไม่เกิน 2 แบบนี้เลยหรือเปล่าค่ะ

 

 

ขอบคุณค่ะ



#14 DooK

DooK

    Super Hornor Member

  • Super Power Members
  • PipPipPipPipPipPip
  • 1,511 posts
  • Gender:Male
  • Location:บางแสน

Posted 28 May 2013 - 10:33 AM

แล้วอย่างถ้า Input คือ ปริมาณของเสียในการผลิตไม่ควรเกิน 2 % ข้อมูลนี้เราควรเขียนลงใปในบันทึกรูปแบบไหนคะ

 

หมายถึงสามารถเขียนลงไปในบันทึกได้เลยว่าการออกแบบผลิตภัณฑ์ a1 ปริมาณของเสียในการผลิตต้องไม่เกิน 2 แบบนี้เลยหรือเปล่าค่ะ

 

 

ขอบคุณค่ะ

 

ได้เลยครับ แต่ผมว่าอันนั้นจะเป็น Process Design Input นะครับ


ลายเซ็น

#15 กฤษณา

กฤษณา

    Super Member

  • Members
  • PipPip
  • 34 posts

Posted 28 May 2013 - 05:13 PM

ตอนนี้กำลังลองทำเอกสารอยู่ถ้าเสร็จแล้วเดี๋ยวจะลองส่งให้ช่วยตรวจสอบดูนะคะ

 

 

ขอบคุณค่ะ



#16 iso_man

iso_man

    Super Hornor Member

  • Super Power Members
  • PipPipPipPipPipPip
  • 5,132 posts
  • Gender:Male

Posted 28 May 2013 - 05:15 PM

ตอนนี้กำลังลองทำเอกสารอยู่ถ้าเสร็จแล้วเดี๋ยวจะลองส่งให้ช่วยตรวจสอบดูนะคะ

 

 

ขอบคุณค่ะ

ส่งมาเลยครับจะรอดูและช่วย Comment ต่อ พอดีงานออกแบบเป็นความลับผมให้ File ไปไม่ได้เดี๋ยวโดนฟ้องตายเลยอิอิ


การมีความรู้ มาจากการเรียนรู้ และปฏิบัติ หากเรียนอย่างเดียวไม่ปฏิบัีติก็เรียกว่ารุ้ไม่จริง
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ chatriwat@hotmail.com
Facebook: poppithai
Tel:089-6834451

#17 กฤษณา

กฤษณา

    Super Member

  • Members
  • PipPip
  • 34 posts

Posted 28 May 2013 - 05:20 PM

แล้วงี้ตาลจะโดนฟ้องมะเนี่ย  :sadno:  :sadno:



#18 iso_man

iso_man

    Super Hornor Member

  • Super Power Members
  • PipPipPipPipPipPip
  • 5,132 posts
  • Gender:Male

Posted 28 May 2013 - 05:24 PM

แล้วงี้ตาลจะโดนฟ้องมะเนี่ย  :sadno:  :sadno:

ไม่โดนหรอกครับเพราะไม่ได้ให้ไปแต่ช่วย Comment ให้ได้


การมีความรู้ มาจากการเรียนรู้ และปฏิบัติ หากเรียนอย่างเดียวไม่ปฏิบัีติก็เรียกว่ารุ้ไม่จริง
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ chatriwat@hotmail.com
Facebook: poppithai
Tel:089-6834451

#19 กฤษณา

กฤษณา

    Super Member

  • Members
  • PipPip
  • 34 posts

Posted 31 May 2013 - 09:45 AM

สอบถามพี่ๆ หน่อยค่ะ ว่าเอกสาร Design change sheet หรือเอกสารการเปลี่ยนแปลงการออกแบบ ถ้ามีรายละเอียดเกี่ยวกับ

-ชื่อผลิตภัณฑ์ที่จะเปลี่ยน  

-วันที่เปลี่ยน

-เหตุผลที่เปลี่ยน

-รายละเอียดอะไรบ้างที่เปลี่ยน

-ผู้ร้องขอเปลี่ยนแปลง

-ผู้ตรวจสอบ

-ผู้อนุมัติ 

 

เพียงพอหรือยังขาดอะไรที่ต้องเพิ่มเติมอีกบ้างคะ

 

ขอบคุณค่ะ






0 user(s) are reading this topic

0 members, 0 guests, 0 anonymous users