ท่านที่สมัครสมาชิกเข้ามาใหม่ กรุณารอให้ Admin ได้ทำการ Validate การเป็นสมาชิก ภายใน 24 ชม.ของวันทำการ ซึ่งระหว่างที่รอ Validation ท่านอาจจะยังไม่สามารถดาวน์โหลดข้อมูลต่างๆ ได้ หากไม่ได้รับความสะดวก กรุณาอีเมลแจ้ง isothainetwork@hotmail.com
รบกวนสอบถามราคาค่า test Migration ตาม EU 10/2011 หน่อยครับ
#1
Posted 04 September 2012 - 02:45 PM
แต่ปีนี้ค่าทดสอบ Migration ตาม EU 10/2011 (ตัวอัพเดต) ที่ condition เดียวกันมันกระโดดไปที่ 21000 เห็นแล้วเฮือกเลย
(อันนี้ที่ SGS Lab นะครับ)
ไม่ทราบว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ โดนค่าเสียหายกันเท่าไรบ้างครับ และมีที่ไหนที่รับทดสอบอีก ราคาเป็นยังไงครับ
#2
Posted 04 September 2012 - 02:59 PM
แต่ปีนี้ค่าทดสอบ Migration ตาม EU 10/2011 (ตัวอัพเดต) ที่ condition เดียวกันมันกระโดดไปที่ 21000 เห็นแล้วเฮือกเลย
(อันนี้ที่ SGS Lab นะครับ)
ไม่ทราบว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ โดนค่าเสียหายกันเท่าไรบ้างครับ และมีที่ไหนที่รับทดสอบอีก ราคาเป็นยังไงครับ
ลองสอบถามที่ ALS , DSS , Central Lab Thai ดูนะครับ
อาจจะถูกกว่าเพราะ SGS เค้ามีชื่อเสียงด้านราคาอยู่แล้ว
#3
Posted 06 September 2012 - 02:14 PM
ตัว 10/2011 มันมี food simulant 6 ตัว เจอลูกค้าให้ตรวจทั้ง 6 ตัวเลย เหงื่อแตกซิกเลยทีเดียว
1. 10% Ethanol
2. 3% Acetic Acid
3. 20% Ethanol
4. 50% Ethanol
5. Vegetable Oil
6. Food Simulant E (ยาวมากมายพิมพ์ไม่ไหว)
ในใจผม คิดว่าตรวจ 50% Ethanol น่าจะคลุมตัว 10% กับ 20% ซึ่งจะประหยัดค่าใช้ได้จ่าย 2 ตัว
ไม่ทราบว่าผมคิดถูกรึเปล่าครับ ถ้าใช่มีส่วนไหนของเอกสารระบุไว้รึเปล่าครับ จะได้เอาไปอ้างอิงกับลูกค้าได้ (พยายามอ่านแล้วแต่ไม่เจอ)
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
#4
Posted 06 September 2012 - 02:28 PM
ผมว่าในหัวข้อนี้น่าจะอธิบายได้ว่า simulant A,B,D1 ให้เลือกทดสอบตัวใดตัวหนึ่งรึเปล่าครับ เพราะในตาราง table 2 food category specific assignment of food simulant หน้า 76-80 ก็ไม่เห็นตัวไหนจะมีการเทสซ้ำซ้อนกันของ A,B,D1
รบกวนเพื่อนๆพี่ๆน้องๆด้วยนะครับผม
#5
Posted 06 September 2012 - 03:15 PM
Simulant A,B,C are assigned for food that have a hydrophilic character....
Simulant D1,D2 are assigned for food that have lipophilic character....
ซึ่งจริงๆคุณจะไม่รู้หรอกว่าลูกค้าของคุณ (หลายๆราย) เค้าจะเอา Finished goods ของคุณไปบรรจุอะไรบ้าง
ดังนั้นคุณก็ต้อง Simulant เพื่อให้ครอบคลุมตัวแทนของอาหารที่เป็นทั้ง hydrophilic and Lipophilic ครับ
นอกจากคุณจะขาย บรรจุภัณฑ์ของคุณให้ลูกค้ารายเดียวแล้วเค้าเอาไปบรรจุสินค้าชนิดเดียวซึ่งสินค้าอาหา
รนั้นต้องมีองค์ประกอบ
เดียวด้วยนะครับ ซึ่งมันพิสูจน์กันยากมาก
อันนี้เท่าที่ผมอ่านและคิดตามนักวิชาการเคมีอาหารนะครับ
#6
Posted 06 September 2012 - 03:23 PM
Simulant A,B,C are assigned for food that have a hydrophilic character....
Simulant D1,D2 are assigned for food that have lipophilic character....
ซึ่งจริงๆคุณจะไม่รู้หรอกว่าลูกค้าของคุณ (หลายๆราย) เค้าจะเอา Finished goods ของคุณไปบรรจุอะไรบ้าง
ดังนั้นคุณก็ต้อง Simulant เพื่อให้ครอบคลุมตัวแทนของอาหารที่เป็นทั้ง hydrophilic and Lipophilic ครับ
นอกจากคุณจะขาย บรรจุภัณฑ์ของคุณให้ลูกค้ารายเดียวแล้วเค้าเอาไปบรรจุสินค้าชนิดเดียวซึ่งสินค้าอาหา
รนั้นต้องมีองค์ประกอบ
เดียวด้วยนะครับ ซึ่งมันพิสูจน์กันยากมาก
อันนี้เท่าที่ผมอ่านและคิดตามนักวิชาการเคมีอาหารนะครับ
ขอบคุณมากเลยครับ
#7
Posted 07 September 2012 - 11:31 PM
#8
Posted 11 September 2012 - 03:55 PM
สมมติว่าสินค้าของคุณคือ Food Packaging ตัวหนึ่งเช่น ถุงพลาสติก จานอาหารแบบกระดาษ หรือแบบพลาสติก ก็ตาม ถ้วยน้ำ เป็นต้น
อยากทราบว่า Prinary Packaging ที่คุณใช้หุ้มห่อ สินค้าดังข้างต้นของคุณ
ต้องมีการ Verify Migration Test หรือไม่
ถ้าใช่ เพราะอะไร
ถ้าไม่ใช่ เพราะอะไร
#9
Posted 11 September 2012 - 04:42 PM
สมมติว่าสินค้าของคุณคือ Food Packaging ตัวหนึ่งเช่น ถุงพลาสติก จานอาหารแบบกระดาษ หรือแบบพลาสติก ก็ตาม ถ้วยน้ำ เป็นต้น
อยากทราบว่า Prinary Packaging ที่คุณใช้หุ้มห่อ สินค้าดังข้างต้นของคุณ
ต้องมีการ Verify Migration Test หรือไม่
ถ้าใช่ เพราะอะไร
ถ้าไม่ใช่ เพราะอะไร
ขอตอบว่าต้อง Verify Migration Test เพราะต้องมองว่า Food Packaging ที่ส่งให้ลูกค้าเป็นผลิตภัณฑ์ และ Prinary Packaging ที่ห่อหุ้มเป็นบรรจุภัณฑ์ครับ เพราะ Migration test คือ การทดสอบเพื่อดูการแพร่กระจายของสาร, การเคลื่อนย้ายของสารจากบรรจุภัณฑ์ลงสู่ผลิตภัณฑ์ครับ
#10
Posted 12 September 2012 - 08:07 PM
ต้องถามว่า ทำไมเราต้องทำ Migartion test เพื่อทวนสอบ
ก็เพราะว่าเราไม่ทราบว่าสินค้าของเราซึ่งเป็น Food Packaging นั้นลูกค้าของเราจะนำไปบรรจุอะไรบ้าง องค์ประกอบอาหารของลูกค้ามีสภาวะความเป็นกรด ด่าง
เป็นสารที่เป็นตัวทำละลายประเภทใดบ้าง ใช่หรือไม่ ดังนั้นจึงต้องจำลองแบบ Worst case ด้วย Silmulant ชนิดต่างๆตามกำหนดที่เป็นตัวแทนของการที่จะมีโอกาส
เกิดการละลายของสารต่างๆในสินค้า Food Packaging ของเราที่ลูกค้านำไปห่อหุ้มอาหาร
แต่ถามว่าแล้ว Primary packaging ที่เรานำมาหีบห่อ Food Packaging เพื่อส่งมอบลูกค้าหล่ะ วัตถุประสงค์การใช้งานของเราคืออะไร
เราไม่ได้คาดหวังหรือกำหนดให้ลูกค้านำไปใช้บรรจุอาหาร ห่อหุ้มอาหารของลูกค้าใช่หรือไม่ อีกทั้งเราใช้ Primary packaging ของเรา
หุ้มห่อ Food Packaging ในสภาวะที่ไม่ได้มี media อะไรเลยนอกจากอากาศ โดยการนี้จึงขอถามว่า Migrate มันจะเกิดไปได้อย่างไร
ดังนั้น ความเห็นส่วนตัวจึงคิดเสมอว่า ไม่มีความจำเป็นต้องทำ Migration test กับวัสดุหีบห่อที่เรานำมาใช้หีบห่อสินค้า Food Packaging
นอกจากเหตุผลอื่นๆที่จะช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจอย่างมีตรรกกะ
ของออกตัวก่อนว่า ผู้เขียนมีความรู้อันน้อยนิดในด้าน Food Packaging / Chemical Migration Research จึงอาจจะไม่เข้าใจลึกซึ้งดังผู้รู้หรือ Food Packaging Auditor
และขอน้อมรับความรู้ที่ถูกต้อง จากท่านผู้รู้ต่างๆที่จะเข้ามาแชร์ในลำดับต่อไป
#11
Posted 20 September 2012 - 02:31 PM
มีอยู่วันหนึ่งขับรถตามหลังรถขนส่ง Food Packaging ของโรงงานกลับบ้านแล้วฝนตกอากาศเย็นทำให้มี Condense ของไอน้ำเกิดขึ้นมาที่กระจก
หน้ารถของผม ก็เลยฉุกคิดได้ว่า อืมแบบนี้หากว่าสินค้าประเภทภาชนะบรรจุอาหารของเราที่บรรจุอยู่ในถุง หากมีลูกค้าไปจัดเก็บในสถานที่ที่มี
อุณหภูมิแตกต่างกันอย่างรวดเร็วก็อาจจะเกิดการ Condense อากาศภายในถุงกลั่นตัวเป็นหยดน้ำเกาะข้างถุง (Primary Packaging) ได้
หรือหากแย่่ๆหน่อยแบบ Worst case สุดๆในสถานที่จัดเก็บของลูกค้ามีการแพร่ฝุ้งกระจายของไอสารเคมี ไอด่าง ไอน้ำมัน เป็นต้น ดังนั้นเมื่อ
มีการ Condense ก็จะทำให้เกิดเป็นสารละลายหรือเป็น film บางๆของสารละลายเหนี่ยวนำให้เกิด Migrate จาก primary packaging to
Food packaging ได้
อีกเหตุผลหนึ่งที่เราควรต้องทวนสอบความสามารถในการ Migrate ได้ของ Primary Packaging ได้ก็คือ โดยทั่วไปถุงพลาสติกจะถุกผลิตขึ้นมา
จากเม็ดพลาสติกเกรดต่างๆ และเป้นธรรมชาติของการผลิตที่จะหลีกเลี่ยงการใช้เม็ดพลาสติก Recycle บ้างไม่ได้ ซึ่งเราไม่มีวันทราบว่าเม็ด Recycle
นั้นถุก recycle มากี่รอบแล้ว แต่จากที่เคยศึกษามาในระดับอุดมศึกษาทั้งในอดีตและเร็วๆนี้พบว่ามีงานวิจัยหลายชิ้นส
นับสนุนข้อมูลสอดคล้องกันว่า
ยิ่งเม็ดพลาสติก Recycle หลายรอบ จะไปเพิ่มการสะสมของ Residual Heavy Metal และ Hazardous chemical ในเนื้อวัสดุมากขึ้นถึงระดับ
ที่ไม่ปลอดภัยต่อการนำมาใช้ใน Food Chain เท่าที่อ่านงานวิจัยบอกว่าการ recycle 4 ครั้งนี่ก็ถือว่าเป็นจำนวนรอบที่มากที่สุดแล้วที่จะยอมรับได้ใน
เหตุผลข้างต้น ดังนั้นเราลองมาคิดว่าถุงพลาสติกราคาไม่สูงซักเท่าไร Supplier ก็คงจะไม่ใช้เม็ด Plastic ชนิด Vergin 100% แน่นอน เพื่อให้คุม
Costing ได้ แข่งขันทางการตลาดได้ก็คงต้องใช้เม็ด Recycle ผสมแน่นอน ดังนั้นเพื่อจรรยาบรรณของผุ้รับผิดชอบด้าน Food Safety/ Food
Packaging Safety ซึ่งรับผิดชอบต่อ Consumer เราต้องวิเคราะห์ Migration และนำผลมาประเมินความเสี่ยงและควบคุมให้ได้
#12
Posted 20 September 2012 - 05:09 PM
ก็เพราะว่าเราไม่ทราบว่าสินค้าของเราซึ่งเป็น Food Packaging นั้นลูกค้าของเราจะนำไปบรรจุอะไรบ้าง องค์ประกอบอาหารของลูกค้ามีสภาวะความเป็นกรด ด่าง
เป็นสารที่เป็นตัวทำละลายประเภทใดบ้าง ใช่หรือไม่ ดังนั้นจึงต้องจำลองแบบ Worst case ด้วย Silmulant ชนิดต่างๆตามกำหนดที่เป็นตัวแทนของการที่จะมีโอกาส
เกิดการละลายของสารต่างๆในสินค้า Food Packaging ของเราที่ลูกค้านำไปห่อหุ้มอาหาร
แต่ถามว่าแล้ว Primary packaging ที่เรานำมาหีบห่อ Food Packaging เพื่อส่งมอบลูกค้าหล่ะ วัตถุประสงค์การใช้งานของเราคืออะไร
เราไม่ได้คาดหวังหรือกำหนดให้ลูกค้านำไปใช้บรรจุอาหาร ห่อหุ้มอาหารของลูกค้าใช่หรือไม่ อีกทั้งเราใช้ Primary packaging ของเรา
หุ้มห่อ Food Packaging ในสภาวะที่ไม่ได้มี media อะไรเลยนอกจากอากาศ โดยการนี้จึงขอถามว่า Migrate มันจะเกิดไปได้อย่างไร
ดังนั้น ความเห็นส่วนตัวจึงคิดเสมอว่า ไม่มีความจำเป็นต้องทำ Migration test กับวัสดุหีบห่อที่เรานำมาใช้หีบห่อสินค้า Food Packaging
นอกจากเหตุผลอื่นๆที่จะช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจอย่างมีตรรกกะ
ของออกตัวก่อนว่า ผู้เขียนมีความรู้อันน้อยนิดในด้าน Food Packaging / Chemical Migration Research จึงอาจจะไม่เข้าใจลึกซึ้งดังผู้รู้หรือ Food Packaging Auditor
และขอน้อมรับความรู้ที่ถูกต้อง จากท่านผู้รู้ต่างๆที่จะเข้ามาแชร์ในลำดับต่อไป
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ chatriwat@hotmail.com
Facebook: poppithai
Tel:089-6834451
#13
Posted 20 September 2012 - 07:27 PM
ชาซองเหลืองๆ อ่ะป่าว หุหุ
ต้องถามย้อนกลับไปว่า ที่ถามว่าผิดหรือเปล่านั้น จะ Focus การผิด การถูก ตามมาตรฐานอะไรครับ ต้องจำเพาะเจาะจง
ถ้าเป็น Food Safety ตามมาตรฐาน BRC นี่ ท่านไม่ยอมรับเลยครับ แต่มาตรฐานอื่นๆ ไม่ได้เขียนไว้ชัด
ผู้ผลิตแต่ละรายต้องประเมินกันเอง ถ้าเป็น Brand ดังและ Conservative เค้าก็ให้ผู้บริโภควัดใจกันเอง
หรือถ้า Brand นั้นเค้ามีช่องทางการขายของตนเอง เค้าก็ไม่ Care ครับ ฉันจะใช้ต่อไป
แต่เท่าที่ทราบมาบ้าง ลวดเย็บกระดาษ(หรือ MAX ของพี่ป๊อปนั้น) มีการเคลือบสารเคมีบางชนิดซึ่งจริงๆมันไม่ได้สร้างมาเพื่อการใช้เป็นส่วนประกอบของ
อาหาร สารเคลือบนั้นมีผู้เชี่ยวชาญบางท่านบอกผมว่าเป็นสารที่ทำให้เกิดการแพ้กับมนุษย์ได้ค
รับ
#14
Posted 22 September 2012 - 09:49 AM
#15
Posted 25 September 2012 - 07:52 PM
โจ้ พี่ไมได้เป็น ศ.ดร. นะ เป็นแค่คนทำงานคนนึงที่พยายามเอาความรู้ในระดับอุดมศึกษาที่เรียนมาเป็นพื้นฐาน
ในการต่อยอดความคิดเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวเล็กๆเท่านั้นเด้อ ครับ
ดีใจ ที่ได้ทำให้น้องสุดที่รักคนนี้ได้รับความรู้หรือแนวคิดของพี่มากขึ้น
#16
Posted 05 November 2012 - 04:10 PM
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users