ท่านที่สมัครสมาชิกเข้ามาใหม่ กรุณารอให้ Admin ได้ทำการ Validate การเป็นสมาชิก ภายใน 24 ชม.ของวันทำการ ซึ่งระหว่างที่รอ Validation ท่านอาจจะยังไม่สามารถดาวน์โหลดข้อมูลต่างๆ ได้ หากไม่ได้รับความสะดวก กรุณาอีเมลแจ้ง isothainetwork@hotmail.com
เกี่ยวกับ Cp,Cpk ครับ ช่วยด้วยครับ
#1
Posted 19 May 2010 - 04:29 PM
ต่างกันอย่างไร และ ใช้ตัวไหน ในช่วงไหนครับ
ขอบคุณมากครับ
#2
Posted 19 May 2010 - 11:15 PM
ต่างกันอย่างไร และ ใช้ตัวไหน ในช่วงไหนครับ
ขอบคุณมากครับ
ทั้งหมดนี้คือดัชนีชี้วัดความสามารถของกระบวนการ
Cp = ดัชนีชี้วัดความสามารถของกระบวนในระยะสั้น วัดหรือประเมินโดยเอา X-Bar เทียบกับ Spec (Min-Max) โดยไม่สนใจค่ากลาง คำว่าไม่สนใจค่ากลาง
ยกตัวอย่างได้ดังนี้
สมมุติว่าเรามี Process อยู่ Process หนึ่ง ทำหน้าที่ในการผลิตงานชิ้นหนึ่ง Spec = 100 +- 2 แปลว่า
Spec = 98 ~ 102
Target = 100
Min = 98
Max = 102
ใจจริงเราอยากให้มันได้ 100 เป๊ะๆ ทุกชิ้นใช่ไหม ตัวเลข 100 นี้เราเรีกมันว่า Target หรือ ค่าเป้าหมายที่เราอยากได้ หรือ ฝันว่าจะได้
แต่กระบวนการทำงานจริงๆมันอาจจะผลิตงานที่มีค่าเท่ากับ 100 บ้าง มากกว่า 100 บ้าง ต่ำกว่า 100 บ้าง
เจ้า Cp นี้มันไม่สนใจ Target ครับ มันไม่สนใจว่าเรายากได้ 100 เป๊ะๆ Cp มันสนใจแค่ว่า ถ้างานที่ออกมา ค่าที่ได้อยู่ระหว่าง 98 ~ 102 มันบอกว่า Cp สุดยอดแล้ว
ข้อเสียคือ Cp อาจจะ OK ทั้งๆที่ค่าเฉลี่ยของงานที่ผลิตออกมา อาจจะติดค่า Max หรือ ใกล้ค่า Min ไปแล้ว โอกาส Out ค่อนข้างเยอะครับ
Pp = ดัชนีชี้วัดความสามารถของกระบวนการในระยะยาว วัดหรือประเมินโดยเทียบ Spec (Min-Max) เหมือน Cp โดยไม่สนใจค่ากลางเช่นกัน
Cpu = Cp แต่เป็น Cp ฝั่งที่มีค่าสูงที่สุด เราเรียกว่า Cp ฝั่ง Upper วัดหรือประเมินโดยใช้ X-bar ที่ได้จริงเทียบกับค่ากลางที่อยากได้
Cpl = Cp แต่เป็น Cp ฝั่งที่มีค่าต่ำสุด วัดหรือประเมินเหมือน Cpu ดังนั้น Cpl = Cpk เพราะสูตร Cpk บอกว่า Cpk = min of (Cpu,Cpl)
Cpu กับ Cpl อยากให้นึกภาพตอนเราผ่าแตงโมเพื่อแบ่งครึ่งครับ มีดสับโช๊ะ ได้มา 2 ชิ้น ใจเราอยากให้มันเท่ากันเป๊ะ แต่ดันมีชิ้นหนึ่งใหญ่กว่าอีกชิ้นหนึ่ง
ไอ้ชิ้นใหญ่ เราเรียกมันว่า Cpu ส่วนไอ้ชิ้นเล็ก เราเรียกว่า Cpl มันจะสัมพันธ์กัน ไอ้ชิ้นเล็กนี้แหละ มันมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Cpk หรือ
จากตัวอย่างข้างต้น
เราจะคำนวณโดยแบ่ง Spec ออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรก = 98~100 ช่วงที่ 2 = 100~102 เราสนใจตรงนี้แหละ ว่างานส่วนใหญ่ที่ผลิตออกมา
มันตกอยู่ช่วงไหน ช่วง 1 หรือ 2 มันจะสุดยอดมาก ถ้ามันมาตกอยู่ที่ 100 พอดี เพราะมันจะทำให้ค่า Cpu กับ Cpl เป๊ะ สถานการณ์นี้แหละที่ทำให้ค่า Cpk สูงสุดแล้ว
แต่ ฝันไปเหอะ Make สถานเดียวที่จะเห็นแบบนี้ได้
Cpk = Min of (Cpu,Cpl) = ดัชนีชี้วัดความสามารถของกระบวนการในระยะสั้น คำนวณโดยนำค่า X-Bar ที่ได้จริง เทียบกับค่ากลางที่อยากได้ แต่
เป็นการเทียบโดยแบ่ง Spec ออกเป็น 2 ช่วง ตามที่อธิบายมาในข้างต้นแล้ว
Ppk = ดัชนีชี้วัดความสามารถของกระบวนการในระยะยาว คำนวณคล้าย Cpk มากๆ ต่างกันตรงวิธีการหา Sigma แค่นั้นเองครับ
ถ้าอยากรู้ว่ากระบวนการในช่วงเริ่มต้นของเรามีความสามารถขนาดไหน เมื่อเทียบกับ Spec ที่ยอมรับได้ เท่านั้น = Cp (ต้นจัดไหม)
ถ้าอยากรู้ว่ากระบวนการในระยะยาวๆของเรามีความสามารถขนาดไหน เมื่อเทียบกับ Spec ที่ยอมรับได้ เท่านั้น = Pp (ปลายแรงไหม)
ถ้าอยากรู้ว่ากระบวนการในช่วงเริ่มต้นของเรามีความสามารถขนาดไหน เมื่อเทียบกับค่า Target ที่เราอยากได้ = Cpk (ต้นจัดและขับกลาง Lane ดีไหม)
ถ้าอยากรู้ว่ากระบวนการในระยะยาวๆของเรามีความสามารถขนาดไหน เมื่อเทียบกับค่า Target ที่เราอยากได้ = Ppk (ปลายแรงและขับกลาง Lane ดีไหม)
แปลว่า พระเอก ที่เทพมากๆสำหรับเรา ก็คือ Ppk ครับ
ลองเอาเอกสารนี้ไปศึกษาดูก่อนน่ะครับ
มีเพื่อนผู้ใจดีท่านหนึ่งเขาเคย upload ไว้ให้ครับ ขอแว๊บก่อน ชักเบลอแล้วครับ ผิดถูกยังไงช่วยท้วงติงด้วยน่ะครับ
Nukool Thanuanram
Mobile Phone: 097.954.4939
Facebook: Nukool Thanuanram
Fanpage: อาจารย์นุกูล วิทยากรสอนคนโรงงาน
LINE ID: nukool2001
E-Mail: nukool2001@gmail.com
เสือพี่เพราะป่าปก ป่ารกเพราะเสือยัง ดินเย็นเพราะหญ้าบัง และหญ้ายังเพราะดินดี "สรรพสิ่งล้วนเกื้อกูลพึ่งพาอาศัย ซึ่งกันและกัน"
#3
Posted 20 May 2010 - 08:49 AM
Cp = ดัชนีชี้วัดความสามารถของกระบวนในระยะสั้น วัดหรือประเมินโดยเอา X-Bar เทียบกับ Spec (Min-Max) โดยไม่สนใจค่ากลาง คำว่าไม่สนใจค่ากลาง
ยกตัวอย่างได้ดังนี้
สมมุติว่าเรามี Process อยู่ Process หนึ่ง ทำหน้าที่ในการผลิตงานชิ้นหนึ่ง Spec = 100 +- 2 แปลว่า
Spec = 98 ~ 102
Target = 100
Min = 98
Max = 102
ใจจริงเราอยากให้มันได้ 100 เป๊ะๆ ทุกชิ้นใช่ไหม ตัวเลข 100 นี้เราเรีกมันว่า Target หรือ ค่าเป้าหมายที่เราอยากได้ หรือ ฝันว่าจะได้
แต่กระบวนการทำงานจริงๆมันอาจจะผลิตงานที่มีค่าเท่ากับ 100 บ้าง มากกว่า 100 บ้าง ต่ำกว่า 100 บ้าง
เจ้า Cp นี้มันไม่สนใจ Target ครับ มันไม่สนใจว่าเรายากได้ 100 เป๊ะๆ Cp มันสนใจแค่ว่า ถ้างานที่ออกมา ค่าที่ได้อยู่ระหว่าง 98 ~ 102 มันบอกว่า Cp สุดยอดแล้ว
ข้อเสียคือ Cp อาจจะ OK ทั้งๆที่ค่าเฉลี่ยของงานที่ผลิตออกมา อาจจะติดค่า Max หรือ ใกล้ค่า Min ไปแล้ว โอกาส Out ค่อนข้างเยอะครับ
Pp = ดัชนีชี้วัดความสามารถของกระบวนการในระยะยาว วัดหรือประเมินโดยเทียบ Spec (Min-Max) เหมือน Cp โดยไม่สนใจค่ากลางเช่นกัน
Cpu = Cp แต่เป็น Cp ฝั่งที่มีค่าสูงที่สุด เราเรียกว่า Cp ฝั่ง Upper วัดหรือประเมินโดยใช้ X-bar ที่ได้จริงเทียบกับค่ากลางที่อยากได้
Cpl = Cp แต่เป็น Cp ฝั่งที่มีค่าต่ำสุด วัดหรือประเมินเหมือน Cpu ดังนั้น Cpl = Cpk เพราะสูตร Cpk บอกว่า Cpk = min of (Cpu,Cpl)
Cpu กับ Cpl อยากให้นึกภาพตอนเราผ่าแตงโมเพื่อแบ่งครึ่งครับ มีดสับโช๊ะ ได้มา 2 ชิ้น ใจเราอยากให้มันเท่ากันเป๊ะ แต่ดันมีชิ้นหนึ่งใหญ่กว่าอีกชิ้นหนึ่ง
ไอ้ชิ้นใหญ่ เราเรียกมันว่า Cpu ส่วนไอ้ชิ้นเล็ก เราเรียกว่า Cpl มันจะสัมพันธ์กัน ไอ้ชิ้นเล็กนี้แหละ มันมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Cpk หรือ
จากตัวอย่างข้างต้น
เราจะคำนวณโดยแบ่ง Spec ออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรก = 98~100 ช่วงที่ 2 = 100~102 เราสนใจตรงนี้แหละ ว่างานส่วนใหญ่ที่ผลิตออกมา
มันตกอยู่ช่วงไหน ช่วง 1 หรือ 2 มันจะสุดยอดมาก ถ้ามันมาตกอยู่ที่ 100 พอดี เพราะมันจะทำให้ค่า Cpu กับ Cpl เป๊ะ สถานการณ์นี้แหละที่ทำให้ค่า Cpk สูงสุดแล้ว
แต่ ฝันไปเหอะ Make สถานเดียวที่จะเห็นแบบนี้ได้
Cpk = Min of (Cpu,Cpl) = ดัชนีชี้วัดความสามารถของกระบวนการในระยะสั้น คำนวณโดยนำค่า X-Bar ที่ได้จริง เทียบกับค่ากลางที่อยากได้ แต่
เป็นการเทียบโดยแบ่ง Spec ออกเป็น 2 ช่วง ตามที่อธิบายมาในข้างต้นแล้ว
Ppk = ดัชนีชี้วัดความสามารถของกระบวนการในระยะยาว คำนวณคล้าย Cpk มากๆ ต่างกันตรงวิธีการหา Sigma แค่นั้นเองครับ
ถ้าอยากรู้ว่ากระบวนการในช่วงเริ่มต้นของเรามีความสามารถขนาดไหน เมื่อเทียบกับ Spec ที่ยอมรับได้ เท่านั้น = Cp (ต้นจัดไหม)
ถ้าอยากรู้ว่ากระบวนการในระยะยาวๆของเรามีความสามารถขนาดไหน เมื่อเทียบกับ Spec ที่ยอมรับได้ เท่านั้น = Pp (ปลายแรงไหม)
ถ้าอยากรู้ว่ากระบวนการในช่วงเริ่มต้นของเรามีความสามารถขนาดไหน เมื่อเทียบกับค่า Target ที่เราอยากได้ = Cpk (ต้นจัดและขับกลาง Lane ดีไหม)
ถ้าอยากรู้ว่ากระบวนการในระยะยาวๆของเรามีความสามารถขนาดไหน เมื่อเทียบกับค่า Target ที่เราอยากได้ = Ppk (ปลายแรงและขับกลาง Lane ดีไหม)
แปลว่า พระเอก ที่เทพมากๆสำหรับเรา ก็คือ Ppk ครับ
ลองเอาเอกสารนี้ไปศึกษาดูก่อนน่ะครับ
มีเพื่อนผู้ใจดีท่านหนึ่งเขาเคย upload ไว้ให้ครับ ขอแว๊บก่อน ชักเบลอแล้วครับ ผิดถูกยังไงช่วยท้วงติงด้วยน่ะครับ
ขอบคุณมาก ๆ ครับ ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์กับผมมาก ขอบคุณครับ
#4
Posted 20 May 2010 - 12:04 PM
ขอแก้ไขนิดหนึ่งครับ นั่งอาจอีกทีแล้วทะแม่งๆ ตรงที่ว่า
" Cpl = Cp แต่เป็น Cp ฝั่งที่มีค่าต่ำสุด วัดหรือประเมินเหมือน Cpu ดังนั้น Cpl = Cpk เพราะสูตร Cpk บอกว่า Cpk = min of (Cpu,Cpl)"
เจตนาคือผมต้องการบอกว่า ระหว่าง Cpl กับ Cpu ตัวไหนที่มีค่าน้อยที่สุด ต่ำที่สุด เราจะถือว่าค่านั้นคือ Cpk
คำว่า Cpl = Cpk ไม่ใช่ครับ ขอแก้ไขด้วย
แนะนำให้ไปดูสูตรการหา Cpl กับ Cpu อีกทีน่ะ แล้วเราจะเห็ภาพ ว่ามันแบ่งครึ่งกัน หรือ มันสัมพันธ์กันยังไง
Nukool Thanuanram
Mobile Phone: 097.954.4939
Facebook: Nukool Thanuanram
Fanpage: อาจารย์นุกูล วิทยากรสอนคนโรงงาน
LINE ID: nukool2001
E-Mail: nukool2001@gmail.com
เสือพี่เพราะป่าปก ป่ารกเพราะเสือยัง ดินเย็นเพราะหญ้าบัง และหญ้ายังเพราะดินดี "สรรพสิ่งล้วนเกื้อกูลพึ่งพาอาศัย ซึ่งกันและกัน"
#5
Posted 27 May 2010 - 04:51 PM
ต่างกันอย่างไร และ ใช้ตัวไหน ในช่วงไหนครับ
ขอบคุณมากครับ
เป็นคำถามที่ Work มากครับ
ผมจะตอบโดย อ้างอิง AIAG Manual (SPC) นะครับ ถ้าคุณคือ Automotive เนื่องจากว่ามีการอ้างอิงหลายเล่ม และแตกต่างกันบ้างก็มาก บ้างก็เล็กน้อย
คำถามนี้ ผมเคยส่ง e-mail ไปถามที่ Sr.Consultant ของ AIAG เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว แต่ถามไปว่า Cpk กับ Ppk ต่างกันอย่างไร?
เอาล่ะนะ เริ่มเลย แบ่งอย่างนี้ก่อน
1) Cp, Cpu, Cpl, Cpk จริงๆแล้ว เรา ต้องการที่จะรู้ถึง 2 ดัชนี หลักคือ Cp Process capability และ Cpk Process capability Index (จริงๆแล้ว "k" มาจากภาษญี่ปุ่น ที่แปลว่า Shift เลื่อน/ขยับ) แต่ตำราไทยโดยส่วนใหญ่ นิยมต้องคำนวณมาจาก Cpu และ Cpl ก่อน กล่าวคือถ้าอยากจะทราบค่า Cp หรือ Cpk ต้องคำนวณหา Cpu หรือ Cpl ก่อน ดูสูตรนะ
Cp = (USL-LSL)/6sigma, Cpu = (USL-Xbar)/3sigma, Cpl= (Xbar-LSL)/3sigma
When USL = Spec. บน (Upper spec. limit), LSL = Lower spec. Limit, Xbar = ค่าเฉลี่ยของกลุ่มข้อมูลนั้นๆครับ
และ Sigma = ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐานของตัวอย่างสุ่ม แต่ถ้าจะให้ถูกต้องจริงๆ อย่าใช้ค่า SD นะ
ต้องใช้การประมาณจาก สูตร (Rbar/d2*), เมื่อ Rbar = ค่าพิสัยเฉลี่ย และ d2* คือ ค่าดัชนีที่ใช้ Convert ค่า R เป็น Sigma มีอยู่ใน Appendix ของ MSA manual (AIAG) หรือ ถ้าไม่คิดมาก ดูสูตร สำเร็จที่ Manual SPC ได้เลย ตรงตาราง X-bar R-chart นะครับ
เมื่อคำนวณได้แล้ว ให้ นำค่าระหว่าง Cpu และ Cpl มาเทียบกัน ถ้าตัวไหน น้อยกว่า นั้นคือ ค่า Cpk นั้นเอง
เมื่อ ได้แล้ว ลองมาดูการตีความ Cp กับ Cpk ดูนะครับ
Cp คือ ค่าดัชนีชี้วัด ความสามารถของกระบวนการโดยรวม และไม่อธิบายการ Shift ของกระบวนการ แต่ Cpk จะอธิบาย ค่าการขับของกระบวนการด้วย โดยส่วนใหญ่เรานิยามตีความที่ Cpk มากกว่านะครับ (ข้อควรระวัง การใช้ Cp, Cpk จะใช้กับการคำนวณกับข้อมูลที่มีความ Stable เท่านั้น และคิด Based on within sub Group และ ควรมีข้อมูลรวมกัน n =100 ข้อมูล จึงจะน่าเชื่อถือนะ สำหรับ กรณี นี้ ใช้สำหรับ 2 side spec นะครับ ยังมี 1 side spec. อีก สำหรับ Ppk เอาไว้ ต่อ คราวหน้านะครับ พิมพ์ไม่พอ แล้ว สอบถามเพิ่มเติมที่ boonchanasak.inspire@gmail.com ได้นะครับ ยินดี Share ประสบการณ์ ครับ
#6
Posted 20 September 2010 - 03:20 PM
อันใหนเป็น Long term กับ Short term ครับ
บางคนก็ว่า Cpk เป็น Long term บ้างก็ว่า Ppk เป็น Long term
มือใหม่ อย่างผมปวดหัวเลย
ขอคำแนะนำหน่อยนะครับ
ขอบคุณครับ
#7
Posted 20 September 2010 - 03:33 PM
ค่า Cp บอกแต่เพียงความแตกต่างของชิ้นงานในช่วงเวลาหนึ่งๆ (short Term Process Capability Study) แต่ Pp บอกถึงความแตกต่างของชิ้นงานในทุกๆช่วงเวลา (Long Term Process Capability Study) ดังนั้นในค่า Ppk ระยะจะดีกว่าครับ พอดีได้มีโอกาส Inhouse Training เพิ่มเติมจากอ.ผู้สอนมหาวิทยาลัยและทำงานด้านนี้มานาน เลยพอตอบได้บ้างนะครับ
อันใหนเป็น Long term กับ Short term ครับ
บางคนก็ว่า Cpk เป็น Long term บ้างก็ว่า Ppk เป็น Long term
มือใหม่ อย่างผมปวดหัวเลย
ขอคำแนะนำหน่อยนะครับ
ขอบคุณครับ
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ chatriwat@hotmail.com
Facebook: poppithai
Tel:089-6834451
#8
Posted 22 September 2010 - 10:59 AM
ค่า Cp บอกแต่เพียงความแตกต่างของชิ้นงานในช่วงเวลาหนึ่งๆ (short Term Process Capability Study) แต่ Pp บอกถึงความแตกต่างของชิ้นงานในทุกๆช่วงเวลา (Long Term Process Capability Study) ดังนั้นในค่า Ppk ระยะจะดีกว่าครับ พอดีได้มีโอกาส Inhouse Training เพิ่มเติมจากอ.ผู้สอนมหาวิทยาลัยและทำงานด้านนี้มานาน เลยพอตอบได้บ้างนะครับ
ขอบคุณครับ
#9
Posted 19 November 2010 - 07:27 PM
#10
Posted 18 May 2011 - 04:54 PM
Cpu กับ Cpl อยากให้นึกภาพตอนเราผ่าแตงโมเพื่อแบ่งครึ่งครับ มีดสับโช๊ะ ได้มา 2 ชิ้น ใจเราอยากให้มันเท่ากันเป๊ะ แต่ดันมีชิ้นหนึ่งใหญ่กว่าอีกชิ้นหนึ่ง
ไอ้ชิ้นใหญ่ เราเรียกมันว่า Cpu ส่วนไอ้ชิ้นเล็ก เราเรียกว่า Cpl มันจะสัมพันธ์กัน ไอ้ชิ้นเล็กนี้แหละ มันมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Cpk หรือ
.......
ลองเอาเอกสารนี้ไปศึกษาดูก่อนน่ะครับ
มีเพื่อนผู้ใจดีท่านหนึ่งเขาเคย upload ไว้ให้ครับ ขอแว๊บก่อน ชักเบลอแล้วครับ ผิดถูกยังไงช่วยท้วงติงด้วยน่ะครับ
สอบถามอาจารย์นุกูล
ความเข้าใจของผม, ไม่จำเป็นว่าไอ้แตงโมชิ้นใหญ่ต้องเป็น Cpu ไอ้ชิ้นเล็กต่ำต้อยเลยต้องกลายเป็น Cpl, แต่น่าจะให้ความสำคัญที่ชิ้นไหนอยู่ทางฝั่ง USL หรือ LSL มากกว่านะครับ
บางครั้งไอ้เจ้าชิ้นที่ค่อนไปทาง USL อาจมีขนาดเล็กก็ได้
และ Cpk เราจะมองไปที่ชิ้นไหนเล็ก Cpk ก็มีค่าเท่ากับชิ้นนั้น
รบกวนอาจารย์ชี้แนะหน่อยครับ
#11
Posted 18 May 2011 - 08:29 PM
ดูกระทู้ของอ.นุกูลข้างบนสิครับ
เข้าใจง่ายดี
#12
Posted 29 February 2012 - 10:32 AM
Cp = ดัชนีชี้วัดความสามารถของกระบวนในระยะสั้น วัดหรือประเมินโดยเอา X-Bar เทียบกับ Spec (Min-Max) โดยไม่สนใจค่ากลาง คำว่าไม่สนใจค่ากลาง
ยกตัวอย่างได้ดังนี้
สมมุติว่าเรามี Process อยู่ Process หนึ่ง ทำหน้าที่ในการผลิตงานชิ้นหนึ่ง Spec = 100 +- 2 แปลว่า
Spec = 98 ~ 102
Target = 100
Min = 98
Max = 102
ใจจริงเราอยากให้มันได้ 100 เป๊ะๆ ทุกชิ้นใช่ไหม ตัวเลข 100 นี้เราเรีกมันว่า Target หรือ ค่าเป้าหมายที่เราอยากได้ หรือ ฝันว่าจะได้
แต่กระบวนการทำงานจริงๆมันอาจจะผลิตงานที่มีค่าเท่ากับ 100 บ้าง มากกว่า 100 บ้าง ต่ำกว่า 100 บ้าง
เจ้า Cp นี้มันไม่สนใจ Target ครับ มันไม่สนใจว่าเรายากได้ 100 เป๊ะๆ Cp มันสนใจแค่ว่า ถ้างานที่ออกมา ค่าที่ได้อยู่ระหว่าง 98 ~ 102 มันบอกว่า Cp สุดยอดแล้ว
ข้อเสียคือ Cp อาจจะ OK ทั้งๆที่ค่าเฉลี่ยของงานที่ผลิตออกมา อาจจะติดค่า Max หรือ ใกล้ค่า Min ไปแล้ว โอกาส Out ค่อนข้างเยอะครับ
Pp = ดัชนีชี้วัดความสามารถของกระบวนการในระยะยาว วัดหรือประเมินโดยเทียบ Spec (Min-Max) เหมือน Cp โดยไม่สนใจค่ากลางเช่นกัน
Cpu = Cp แต่เป็น Cp ฝั่งที่มีค่าสูงที่สุด เราเรียกว่า Cp ฝั่ง Upper วัดหรือประเมินโดยใช้ X-bar ที่ได้จริงเทียบกับค่ากลางที่อยากได้
Cpl = Cp แต่เป็น Cp ฝั่งที่มีค่าต่ำสุด วัดหรือประเมินเหมือน Cpu ดังนั้น Cpl = Cpk เพราะสูตร Cpk บอกว่า Cpk = min of (Cpu,Cpl)
Cpu กับ Cpl อยากให้นึกภาพตอนเราผ่าแตงโมเพื่อแบ่งครึ่งครับ มีดสับโช๊ะ ได้มา 2 ชิ้น ใจเราอยากให้มันเท่ากันเป๊ะ แต่ดันมีชิ้นหนึ่งใหญ่กว่าอีกชิ้นหนึ่ง
ไอ้ชิ้นใหญ่ เราเรียกมันว่า Cpu ส่วนไอ้ชิ้นเล็ก เราเรียกว่า Cpl มันจะสัมพันธ์กัน ไอ้ชิ้นเล็กนี้แหละ มันมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Cpk หรือ
จากตัวอย่างข้างต้น
เราจะคำนวณโดยแบ่ง Spec ออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรก = 98~100 ช่วงที่ 2 = 100~102 เราสนใจตรงนี้แหละ ว่างานส่วนใหญ่ที่ผลิตออกมา
มันตกอยู่ช่วงไหน ช่วง 1 หรือ 2 มันจะสุดยอดมาก ถ้ามันมาตกอยู่ที่ 100 พอดี เพราะมันจะทำให้ค่า Cpu กับ Cpl เป๊ะ สถานการณ์นี้แหละที่ทำให้ค่า Cpk สูงสุดแล้ว
แต่ ฝันไปเหอะ Make สถานเดียวที่จะเห็นแบบนี้ได้
Cpk = Min of (Cpu,Cpl) = ดัชนีชี้วัดความสามารถของกระบวนการในระยะสั้น คำนวณโดยนำค่า X-Bar ที่ได้จริง เทียบกับค่ากลางที่อยากได้ แต่
เป็นการเทียบโดยแบ่ง Spec ออกเป็น 2 ช่วง ตามที่อธิบายมาในข้างต้นแล้ว
Ppk = ดัชนีชี้วัดความสามารถของกระบวนการในระยะยาว คำนวณคล้าย Cpk มากๆ ต่างกันตรงวิธีการหา Sigma แค่นั้นเองครับ
ถ้าอยากรู้ว่ากระบวนการในช่วงเริ่มต้นของเรามีความสามารถขนาดไหน เมื่อเทียบกับ Spec ที่ยอมรับได้ เท่านั้น = Cp (ต้นจัดไหม)
ถ้าอยากรู้ว่ากระบวนการในระยะยาวๆของเรามีความสามารถขนาดไหน เมื่อเทียบกับ Spec ที่ยอมรับได้ เท่านั้น = Pp (ปลายแรงไหม)
ถ้าอยากรู้ว่ากระบวนการในช่วงเริ่มต้นของเรามีความสามารถขนาดไหน เมื่อเทียบกับค่า Target ที่เราอยากได้ = Cpk (ต้นจัดและขับกลาง Lane ดีไหม)
ถ้าอยากรู้ว่ากระบวนการในระยะยาวๆของเรามีความสามารถขนาดไหน เมื่อเทียบกับค่า Target ที่เราอยากได้ = Ppk (ปลายแรงและขับกลาง Lane ดีไหม)
แปลว่า พระเอก ที่เทพมากๆสำหรับเรา ก็คือ Ppk ครับ
ลองเอาเอกสารนี้ไปศึกษาดูก่อนน่ะครับ
มีเพื่อนผู้ใจดีท่านหนึ่งเขาเคย upload ไว้ให้ครับ ขอแว๊บก่อน ชักเบลอแล้วครับ ผิดถูกยังไงช่วยท้วงติงด้วยน่ะครับ
อ.นุกูลมีเอกสารที่ใช้ศึกษาหลอครับ
ขอด้วยคนได้ป่าวครับ
Thel2edEyEs@Gmail.Com
ขอบคุณมากครับ
#13
Posted 29 June 2012 - 09:36 AM
Cp = ดัชนีชี้วัดความสามารถของกระบวนในระยะสั้น วัดหรือประเมินโดยเอา X-Bar เทียบกับ Spec (Min-Max) โดยไม่สนใจค่ากลาง คำว่าไม่สนใจค่ากลาง
ยกตัวอย่างได้ดังนี้
สมมุติว่าเรามี Process อยู่ Process หนึ่ง ทำหน้าที่ในการผลิตงานชิ้นหนึ่ง Spec = 100 +- 2 แปลว่า
Spec = 98 ~ 102
Target = 100
Min = 98
Max = 102
ใจจริงเราอยากให้มันได้ 100 เป๊ะๆ ทุกชิ้นใช่ไหม ตัวเลข 100 นี้เราเรีกมันว่า Target หรือ ค่าเป้าหมายที่เราอยากได้ หรือ ฝันว่าจะได้
แต่กระบวนการทำงานจริงๆมันอาจจะผลิตงานที่มีค่าเท่ากับ 100 บ้าง มากกว่า 100 บ้าง ต่ำกว่า 100 บ้าง
เจ้า Cp นี้มันไม่สนใจ Target ครับ มันไม่สนใจว่าเรายากได้ 100 เป๊ะๆ Cp มันสนใจแค่ว่า ถ้างานที่ออกมา ค่าที่ได้อยู่ระหว่าง 98 ~ 102 มันบอกว่า Cp สุดยอดแล้ว
ข้อเสียคือ Cp อาจจะ OK ทั้งๆที่ค่าเฉลี่ยของงานที่ผลิตออกมา อาจจะติดค่า Max หรือ ใกล้ค่า Min ไปแล้ว โอกาส Out ค่อนข้างเยอะครับ
Pp = ดัชนีชี้วัดความสามารถของกระบวนการในระยะยาว วัดหรือประเมินโดยเทียบ Spec (Min-Max) เหมือน Cp โดยไม่สนใจค่ากลางเช่นกัน
Cpu = Cp แต่เป็น Cp ฝั่งที่มีค่าสูงที่สุด เราเรียกว่า Cp ฝั่ง Upper วัดหรือประเมินโดยใช้ X-bar ที่ได้จริงเทียบกับค่ากลางที่อยากได้
Cpl = Cp แต่เป็น Cp ฝั่งที่มีค่าต่ำสุด วัดหรือประเมินเหมือน Cpu ดังนั้น Cpl = Cpk เพราะสูตร Cpk บอกว่า Cpk = min of (Cpu,Cpl)
Cpu กับ Cpl อยากให้นึกภาพตอนเราผ่าแตงโมเพื่อแบ่งครึ่งครับ มีดสับโช๊ะ ได้มา 2 ชิ้น ใจเราอยากให้มันเท่ากันเป๊ะ แต่ดันมีชิ้นหนึ่งใหญ่กว่าอีกชิ้นหนึ่ง
ไอ้ชิ้นใหญ่ เราเรียกมันว่า Cpu ส่วนไอ้ชิ้นเล็ก เราเรียกว่า Cpl มันจะสัมพันธ์กัน ไอ้ชิ้นเล็กนี้แหละ มันมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Cpk หรือ
จากตัวอย่างข้างต้น
เราจะคำนวณโดยแบ่ง Spec ออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรก = 98~100 ช่วงที่ 2 = 100~102 เราสนใจตรงนี้แหละ ว่างานส่วนใหญ่ที่ผลิตออกมา
มันตกอยู่ช่วงไหน ช่วง 1 หรือ 2 มันจะสุดยอดมาก ถ้ามันมาตกอยู่ที่ 100 พอดี เพราะมันจะทำให้ค่า Cpu กับ Cpl เป๊ะ สถานการณ์นี้แหละที่ทำให้ค่า Cpk สูงสุดแล้ว
แต่ ฝันไปเหอะ Make สถานเดียวที่จะเห็นแบบนี้ได้
Cpk = Min of (Cpu,Cpl) = ดัชนีชี้วัดความสามารถของกระบวนการในระยะสั้น คำนวณโดยนำค่า X-Bar ที่ได้จริง เทียบกับค่ากลางที่อยากได้ แต่
เป็นการเทียบโดยแบ่ง Spec ออกเป็น 2 ช่วง ตามที่อธิบายมาในข้างต้นแล้ว
Ppk = ดัชนีชี้วัดความสามารถของกระบวนการในระยะยาว คำนวณคล้าย Cpk มากๆ ต่างกันตรงวิธีการหา Sigma แค่นั้นเองครับ
ถ้าอยากรู้ว่ากระบวนการในช่วงเริ่มต้นของเรามีความสามารถขนาดไหน เมื่อเทียบกับ Spec ที่ยอมรับได้ เท่านั้น = Cp (ต้นจัดไหม)
ถ้าอยากรู้ว่ากระบวนการในระยะยาวๆของเรามีความสามารถขนาดไหน เมื่อเทียบกับ Spec ที่ยอมรับได้ เท่านั้น = Pp (ปลายแรงไหม)
ถ้าอยากรู้ว่ากระบวนการในช่วงเริ่มต้นของเรามีความสามารถขนาดไหน เมื่อเทียบกับค่า Target ที่เราอยากได้ = Cpk (ต้นจัดและขับกลาง Lane ดีไหม)
ถ้าอยากรู้ว่ากระบวนการในระยะยาวๆของเรามีความสามารถขนาดไหน เมื่อเทียบกับค่า Target ที่เราอยากได้ = Ppk (ปลายแรงและขับกลาง Lane ดีไหม)
แปลว่า พระเอก ที่เทพมากๆสำหรับเรา ก็คือ Ppk ครับ
ลองเอาเอกสารนี้ไปศึกษาดูก่อนน่ะครับ
มีเพื่อนผู้ใจดีท่านหนึ่งเขาเคย upload ไว้ให้ครับ ขอแว๊บก่อน ชักเบลอแล้วครับ ผิดถูกยังไงช่วยท้วงติงด้วยน่ะครับ
Like + 99
สวดยอดครับอาจารย์
#14
Posted 29 June 2012 - 11:03 AM
Cp = ดัชนีชี้วัดความสามารถของกระบวนในระยะสั้น วัดหรือประเมินโดยเอา X-Bar เทียบกับ Spec (Min-Max) โดยไม่สนใจค่ากลาง คำว่าไม่สนใจค่ากลาง
ยกตัวอย่างได้ดังนี้
สมมุติว่าเรามี Process อยู่ Process หนึ่ง ทำหน้าที่ในการผลิตงานชิ้นหนึ่ง Spec = 100 +- 2 แปลว่า
Spec = 98 ~ 102
Target = 100
Min = 98
Max = 102
ใจจริงเราอยากให้มันได้ 100 เป๊ะๆ ทุกชิ้นใช่ไหม ตัวเลข 100 นี้เราเรีกมันว่า Target หรือ ค่าเป้าหมายที่เราอยากได้ หรือ ฝันว่าจะได้
แต่กระบวนการทำงานจริงๆมันอาจจะผลิตงานที่มีค่าเท่ากับ 100 บ้าง มากกว่า 100 บ้าง ต่ำกว่า 100 บ้าง
เจ้า Cp นี้มันไม่สนใจ Target ครับ มันไม่สนใจว่าเรายากได้ 100 เป๊ะๆ Cp มันสนใจแค่ว่า ถ้างานที่ออกมา ค่าที่ได้อยู่ระหว่าง 98 ~ 102 มันบอกว่า Cp สุดยอดแล้ว
ข้อเสียคือ Cp อาจจะ OK ทั้งๆที่ค่าเฉลี่ยของงานที่ผลิตออกมา อาจจะติดค่า Max หรือ ใกล้ค่า Min ไปแล้ว โอกาส Out ค่อนข้างเยอะครับ
Pp = ดัชนีชี้วัดความสามารถของกระบวนการในระยะยาว วัดหรือประเมินโดยเทียบ Spec (Min-Max) เหมือน Cp โดยไม่สนใจค่ากลางเช่นกัน
Cpu = Cp แต่เป็น Cp ฝั่งที่มีค่าสูงที่สุด เราเรียกว่า Cp ฝั่ง Upper วัดหรือประเมินโดยใช้ X-bar ที่ได้จริงเทียบกับค่ากลางที่อยากได้
Cpl = Cp แต่เป็น Cp ฝั่งที่มีค่าต่ำสุด วัดหรือประเมินเหมือน Cpu ดังนั้น Cpl = Cpk เพราะสูตร Cpk บอกว่า Cpk = min of (Cpu,Cpl)
Cpu กับ Cpl อยากให้นึกภาพตอนเราผ่าแตงโมเพื่อแบ่งครึ่งครับ มีดสับโช๊ะ ได้มา 2 ชิ้น ใจเราอยากให้มันเท่ากันเป๊ะ แต่ดันมีชิ้นหนึ่งใหญ่กว่าอีกชิ้นหนึ่ง
ไอ้ชิ้นใหญ่ เราเรียกมันว่า Cpu ส่วนไอ้ชิ้นเล็ก เราเรียกว่า Cpl มันจะสัมพันธ์กัน ไอ้ชิ้นเล็กนี้แหละ มันมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Cpk หรือ
จากตัวอย่างข้างต้น
เราจะคำนวณโดยแบ่ง Spec ออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรก = 98~100 ช่วงที่ 2 = 100~102 เราสนใจตรงนี้แหละ ว่างานส่วนใหญ่ที่ผลิตออกมา
มันตกอยู่ช่วงไหน ช่วง 1 หรือ 2 มันจะสุดยอดมาก ถ้ามันมาตกอยู่ที่ 100 พอดี เพราะมันจะทำให้ค่า Cpu กับ Cpl เป๊ะ สถานการณ์นี้แหละที่ทำให้ค่า Cpk สูงสุดแล้ว
แต่ ฝันไปเหอะ Make สถานเดียวที่จะเห็นแบบนี้ได้
Cpk = Min of (Cpu,Cpl) = ดัชนีชี้วัดความสามารถของกระบวนการในระยะสั้น คำนวณโดยนำค่า X-Bar ที่ได้จริง เทียบกับค่ากลางที่อยากได้ แต่
เป็นการเทียบโดยแบ่ง Spec ออกเป็น 2 ช่วง ตามที่อธิบายมาในข้างต้นแล้ว
Ppk = ดัชนีชี้วัดความสามารถของกระบวนการในระยะยาว คำนวณคล้าย Cpk มากๆ ต่างกันตรงวิธีการหา Sigma แค่นั้นเองครับ
ถ้าอยากรู้ว่ากระบวนการในช่วงเริ่มต้นของเรามีความสามารถขนาดไหน เมื่อเทียบกับ Spec ที่ยอมรับได้ เท่านั้น = Cp (ต้นจัดไหม)
ถ้าอยากรู้ว่ากระบวนการในระยะยาวๆของเรามีความสามารถขนาดไหน เมื่อเทียบกับ Spec ที่ยอมรับได้ เท่านั้น = Pp (ปลายแรงไหม)
ถ้าอยากรู้ว่ากระบวนการในช่วงเริ่มต้นของเรามีความสามารถขนาดไหน เมื่อเทียบกับค่า Target ที่เราอยากได้ = Cpk (ต้นจัดและขับกลาง Lane ดีไหม)
ถ้าอยากรู้ว่ากระบวนการในระยะยาวๆของเรามีความสามารถขนาดไหน เมื่อเทียบกับค่า Target ที่เราอยากได้ = Ppk (ปลายแรงและขับกลาง Lane ดีไหม)
แปลว่า พระเอก ที่เทพมากๆสำหรับเรา ก็คือ Ppk ครับ
ลองเอาเอกสารนี้ไปศึกษาดูก่อนน่ะครับ
มีเพื่อนผู้ใจดีท่านหนึ่งเขาเคย upload ไว้ให้ครับ ขอแว๊บก่อน ชักเบลอแล้วครับ ผิดถูกยังไงช่วยท้วงติงด้วยน่ะครับ
อาจารย์ ขั้นเทพ
จงเป็นน้ำครึ่งแก้วตลอดชีวิต เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมได้ตลอด
#15
Posted 29 June 2012 - 10:42 PM
#16
Posted 30 June 2012 - 10:09 AM
ความเข้าใจของผม, ไม่จำเป็นว่าไอ้แตงโมชิ้นใหญ่ต้องเป็น Cpu ไอ้ชิ้นเล็กต่ำต้อยเลยต้องกลายเป็น Cpl, แต่น่าจะให้ความสำคัญที่ชิ้นไหนอยู่ทางฝั่ง USL หรือ LSL มากกว่านะครับ
บางครั้งไอ้เจ้าชิ้นที่ค่อนไปทาง USL อาจมีขนาดเล็กก็ได้
และ Cpk เราจะมองไปที่ชิ้นไหนเล็ก Cpk ก็มีค่าเท่ากับชิ้นนั้น
รบกวนอาจารย์ชี้แนะหน่อยครับ
เข้าใจถูกแล้วครับ
ใจเราอยากให้มันเท่ากัน แต่บางครั้งซีกซ้ายอาจจะเล็กกว่าหรือโตกว่าซีกขวาก็ได้ครับ ซีกไหนเล็ก ซีกนั้นแหละคือ Cpk ครับ
Nukool Thanuanram
Mobile Phone: 097.954.4939
Facebook: Nukool Thanuanram
Fanpage: อาจารย์นุกูล วิทยากรสอนคนโรงงาน
LINE ID: nukool2001
E-Mail: nukool2001@gmail.com
เสือพี่เพราะป่าปก ป่ารกเพราะเสือยัง ดินเย็นเพราะหญ้าบัง และหญ้ายังเพราะดินดี "สรรพสิ่งล้วนเกื้อกูลพึ่งพาอาศัย ซึ่งกันและกัน"
#17
Posted 13 August 2012 - 12:10 AM
ผมจะตอบโดย อ้างอิง AIAG Manual (SPC) นะครับ ถ้าคุณคือ Automotive เนื่องจากว่ามีการอ้างอิงหลายเล่ม และแตกต่างกันบ้างก็มาก บ้างก็เล็กน้อย
คำถามนี้ ผมเคยส่ง e-mail ไปถามที่ Sr.Consultant ของ AIAG เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว แต่ถามไปว่า Cpk กับ Ppk ต่างกันอย่างไร?
เอาล่ะนะ เริ่มเลย แบ่งอย่างนี้ก่อน
1) Cp, Cpu, Cpl, Cpk จริงๆแล้ว เรา ต้องการที่จะรู้ถึง 2 ดัชนี หลักคือ Cp Process capability และ Cpk Process capability Index (จริงๆแล้ว "k" มาจากภาษญี่ปุ่น ที่แปลว่า Shift เลื่อน/ขยับ) แต่ตำราไทยโดยส่วนใหญ่ นิยมต้องคำนวณมาจาก Cpu และ Cpl ก่อน กล่าวคือถ้าอยากจะทราบค่า Cp หรือ Cpk ต้องคำนวณหา Cpu หรือ Cpl ก่อน ดูสูตรนะ
Cp = (USL-LSL)/6sigma, Cpu = (USL-Xbar)/3sigma, Cpl= (Xbar-LSL)/3sigma
When USL = Spec. บน (Upper spec. limit), LSL = Lower spec. Limit, Xbar = ค่าเฉลี่ยของกลุ่มข้อมูลนั้นๆครับ
และ Sigma = ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐานของตัวอย่างสุ่ม แต่ถ้าจะให้ถูกต้องจริงๆ อย่าใช้ค่า SD นะ
ต้องใช้การประมาณจาก สูตร (Rbar/d2*), เมื่อ Rbar = ค่าพิสัยเฉลี่ย และ d2* คือ ค่าดัชนีที่ใช้ Convert ค่า R เป็น Sigma มีอยู่ใน Appendix ของ MSA manual (AIAG) หรือ ถ้าไม่คิดมาก ดูสูตร สำเร็จที่ Manual SPC ได้เลย ตรงตาราง X-bar R-chart นะครับ
เมื่อคำนวณได้แล้ว ให้ นำค่าระหว่าง Cpu และ Cpl มาเทียบกัน ถ้าตัวไหน น้อยกว่า นั้นคือ ค่า Cpk นั้นเอง
เมื่อ ได้แล้ว ลองมาดูการตีความ Cp กับ Cpk ดูนะครับ
Cp คือ ค่าดัชนีชี้วัด ความสามารถของกระบวนการโดยรวม และไม่อธิบายการ Shift ของกระบวนการ แต่ Cpk จะอธิบาย ค่าการขับของกระบวนการด้วย โดยส่วนใหญ่เรานิยามตีความที่ Cpk มากกว่านะครับ (ข้อควรระวัง การใช้ Cp, Cpk จะใช้กับการคำนวณกับข้อมูลที่มีความ Stable เท่านั้น และคิด Based on within sub Group และ ควรมีข้อมูลรวมกัน n =100 ข้อมูล จึงจะน่าเชื่อถือนะ สำหรับ กรณี นี้ ใช้สำหรับ 2 side spec นะครับ ยังมี 1 side spec. อีก สำหรับ Ppk เอาไว้ ต่อ คราวหน้านะครับ พิมพ์ไม่พอ แล้ว สอบถามเพิ่มเติมที่ boonchanasak.inspire@gmail.com ได้นะครับ ยินดี Share ประสบการณ์ ครับ
ขอเอกสารคำนวณสูตร Cpk , Ppk ด้วยครับ
suwan.qa@gmail.com
#18
Posted 24 January 2013 - 04:04 PM
The company, head-quarter in Ohio , employs more than 30,000 people on five continents and produces annual revenues of more than $75 billion.
Cardinal Health 222 ( Thailand ) Ltd. The world's leading and largest surgical and specialty medical gloves manufacturer is now expanding its production base in Thailand situated in Amata City, Rayong. Today the number of employee exceeds 2,000 and still growing. The company is inviting suitable candidates to join its team for the following position.
Lean Six Sigma Black Belt Engineer
Post Date: 24-Jan-13
Summary of basic function -
Responsible for conducting performance improvement projects as specified by the business unit leadership team in coordination with the site deployment champion. Responsible for the implementation of corrective action plans and verification of solution effectiveness. Black belt will in partnership with the site level financial services team document the fiscal impact of solution and maintain all appropriate data within the Operational Excellence project tracking system. Black belt also need to be trainer and coach for GB to finish GB projects.
The Qualification -
- Bachelor's Degree (In any field)
- Proficient in Microsoft Office tools: Excel, Access, Word, PowerPoint and Visio
- Proficient in use of Minitab statistical software
- Experience applying Six Sigma and Lean techniques in a transactional environment Black Belt desired.
- Demonstrated leadership skill
- Superior interpersonal, verbal and written communication skills; able to communicate effectively and interact with personnel at all levels of Technical ability and expertise
- Excellent problem solving skills
- Able to work under deadlines and handle multiple and detail-oriented tasks
- Must be able to work independently in off-site locations
**Remark**
.....We offer very attractive salary and benefits to the right candidate, please submit full application to
file:///C:DOCUME~1ORAWAN~2.JITLOCALS~1Tempmsohtmlclip11clip_image001.gif
Cardinal Health 222 (Thailand) Ltd.
7/111 Moo 4, Highway 331, Mabyangporn,
Pluakdeang, Rayong 21140
Tel 038-640100 ext. 121,113 Fax 038-650008
E-mail orawan.jitpaiboon@cardinalhealth.com
Qualifications Degree
Yr Exp 3 years up
Job Location Rayong
Monthly Salary Range Negotiable
Job Type Full Time, Permanent
#19
Posted 13 November 2014 - 04:49 PM
โอ้ย ปวดเศียร.......คำนวณกานนนนไปปป ขอบพระคุณทุกท่านค่ะะะะ
#20
Posted 01 February 2016 - 12:37 PM
ท่านไหนมีไฟล์เกี่ยวกับการอบรม CP CPK รบกวนด้วยนะคะ
beerome123@gmail.com
ขอบคุณล่วงหน้าคะ
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users